ถ้าไม่อยากถูกมองว่าไร้มารยาท อย่าถามแบบนี้กับใครเด็ดขาด!

ถ้าไม่อยากถูกมองว่าไร้มารยาท อย่าถามแบบนี้กับใครเด็ดขาด!

คำถามยอดฮิตที่ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ ก็ไม่ควรถาม (บางทีถึงสนิทก็ยังคิดว่ามันไม่ควรถามเลย) อย่างได้เงินเดือนเท่าไหร่ มีแฟนรึยัง เมื่อไหร่จะแต่งงาน ทำไมยังไม่มีลูก หรือแม้แต่เรื่องรูปลักษณ์ เช่น ดำขึ้นรึเปล่า ไปทำอะไรมาถึงอ้วน ขอบอกเลยว่าประโยคเหล่านี้ มันไม่ใช่ประโยคทักทายที่ดี แต่มันเป็นประโยคที่แทงใจดำใครหลายคนเลยทีเดียว แถมยังทำให้คนที่ถามดูไร้มารยาทอีกด้วย

ซึ่งถ้าคุณไม่อยากกลายเป็นคนแบบนั้น ในสายตาของคนที่ถูกถามล่ะก็ ขอแนะนำว่าอย่าไปถามแบบนี้กับใครเด็ดขาด เพราะมันจะดูเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากเกินไป หรือพูดง่ายๆ ก็คือเผือกดีๆ นี่เอง ซึ่งนอกจากประโยคข้างต้นแล้ว ก็ยังมีประโยคอื่นๆ อีกที่เรานำมาขยายต่อให้ทุกคนได้ทราบถึงเหตุผลว่า ทำไมประโยคแบบนี้จึงไม่ควรนำไปถามคนอื่น

อายุเท่าไหร่

หลายคนอาจจะมองว่าแค่ถามอายุเอง ทำไมมันถึงเป็นประโยคที่ไม่ควรถามล่ะ ซึ่งจะบอกว่าการถามอายุมันเป็นเรื่องที่บางคน อาจจะรู้สึกอึดอัดที่จะตอบ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุเกินเลข 3 ขึ้นไป เพราะมันจะเป็นการทำให้คนที่ถูกถามนั้นเสียความมั่นใจได้

น้ำหนักเท่าไหร่

ยังมีอีกหลายคนที่คิดว่าเรื่องน้ำหนัก ขนาดไซส์เสื้อ และรอบเอว เป็นสิ่งที่ไม่ควรถามไม่แตกต่างจากการทักด้วยประโยคที่ว่า อ้วนขึ้นรึเปล่าและไปทำอะไรมาถึงอ้วน ซึ่งมันเป็นอะไรที่พอจะรู้อยู่แล้วมั้ยนะว่า ก็เพราะกินเยอะและไม่ได้ออกกำลังกายน่ะสิถึงมาถึงจุดนี้ได้ (ฮา) ฉะนั้นการถามว่าน้ำหนักเท่าไหร่ ก็ดูจะเสียมารยาทไปหน่อยสำหรับบางคน

ทำไมยังโสด

เข้ากรอบเดียวกันกับคำถามที่ว่ามีแฟนรึยัง และเมื่อไหร่จะแต่งงาน ซึ่งหลายคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งถ้ามันเป็นเหตุผลส่วนตัว ก็ลองไตร่ตรองดูว่าถ้าคุณโสด เพราะพึ่งถูกทิ้งมาหรือแฟนที่แพลนจะแต่งงานด้วยเสียชีวิต แล้วมีคนมาถามเช่นนี้คุณก็คงจะเบือนหน้าหนีเหมือนกัน

ทำศัลยกรรมมารึเปล่า

การถามเช่นนี้ถือเป็นการไม่ให้เกียรติคู่สนทนาอย่างมาก และยิ่งถ้าคุณไม่ได้สนิทกับคนที่ถูกถาม คุณจะยิ่งดูเป็นคนที่เสียมารยาท และอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป อีกกรณีคือเหมือนกับว่าคุณกำลังจะเริ่มวิจารณ์รูปลักษณ์ หรือหน้าตาของคนอื่นด้วยนั่นเอง เช่น ไปทำจมูกมาเหรอ ดูไม่ต่างจากเดิมเลย ไม่น่าไปทำเสียดายเงิน เป็นต้น

เป็นเกย์รึป่าว

ถ้าหากพอดูออกหรือเขาคนนั้นก็แสดงอาการที่ชัดเจนอยู่แล้ว ก็ไม่ควรโพงพางไปถาม เพราะพูดตรงๆ มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณที่จะต้องไปอยากรู้ เพราะถ้าเขาคนนั้นสนิทใจที่อยากจะบอกเมื่อไหร่ เดี๋ยวเขาก็บอกคุณเองนั่นแหละ ฉะนั้นก็เอาเป็นว่าอย่าพึ่งไปตัดสินใคร ก่อนที่จะได้รู้จักตัวตนเขาจริงๆ ถือเป็นอันดีที่สุด

ของที่ใช้ราคาเท่าไหร่

อาจจะยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ตัว ว่าการถามเช่นนี้มันดูไม่เหมาะสม จากบรรดาประโยคข้างต้นที่กล่าวมา ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าข้อนี้แหละเสียมารยาทที่สุดแล้ว เพราะคำถามนี้มันจะทำให้ดูเหมือนว่าคุณไปก้าวก่ายพื้นที่ของคนอื่น และทำให้คุณดูเป็นคนที่ตัดสินคนด้วยราคาข้าวของ อีกอย่างก็คือทำให้คุณดูเป็นคนอยากรู้อยากเห็นจนเกินงามด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com