เผยวิบากกรรมของคนถูกทิ้ง ทำดีแค่ไหน สุดท้ายโดนเท

เผยวิบากกรรมของคนถูกทิ้ง ทำดีแค่ไหน สุดท้ายโดนเท

เชื่อไหม? มีคนจำนวนไม่น้อยที่ผิดหวังจากเรื่องความรักซ้ำๆซากๆ ไม่ว่าจะเป็นรักเขาข้างเดียว รักคนมีเจ้าของ โดยเฉพาะคนที่ถูกทอดทิ้งจากคนรัก โดนเทอยู่บ่อยครั้ง ทั้งๆที่ตนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด?  เหตุปัจจัยของการถูกคนรักทอดทิ้งก็มีอยู่หลายอย่าง

หากมองในแง่ของความเชื่อ ก็มีทั้งกรรมปัจจุบัน หรือการกระทำของทั้งสองฝ่ายเป็นเหตุให้ต้องจบความสัมพันธ์และความเชื่อเรื่องกรรมในอดีต ที่ส่งผลต่อปัจจุบัน ให้ต้องพบเจอกับความผิดหวังในความรักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าตนจะสมบูรณ์แบบทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะชาติตระกูล ความประพฤติ แต่ก็ยังถูกทอดทิ้งอยู่เสมอ

ความเชื่อเรื่องกรรมในอดีตที่นำพาให้ต้องถูกทอดทิ้งจากคนรักนั้น มีหนึ่งตัวอย่างจากเรื่องราวในพุทธกาลของนางอิสิทาสี ซึ่งถูกสามีทอดทิ้งถึง ๓ ครั้ง เพราะผลกรรมเก่าจากในอดีตชาติ เรื่องราวนี้ปรากฎใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา (อ่านเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=10029&Z=10137) ขอกล่าวโดยย่อเพียงบางส่วนดังนี้คือ

นางอิสิทาสีผู้มีรูปงาม เป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้หนึ่งในเมืองอุชเชนี  ในเวลาต่อมาได้มีเศรษฐีมาสู่นางไปเป็นสะใภ้ บิดาจึงยกให้ นางอิสิทาสีได้ทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง อีกทั้งยังปรนนิบัติดูแลบิดามารดาของสามีอย่างดี แต่ไม่นานนัก สามีของนางก็ไม่อยากอยู่ร่วมเรือนเดียวกับนาง เกลียดนาง ไม่อยากเห็นนาง ทั้งๆที่นางก็ไม่ได้ทำผิดอะไร บิดามารดาของสามี จึงได้พานางมาส่งคืน

 จากนั้นบิดาของนางอิสิทาสีจึงให้นางแต่งงานกับเศรษฐีคนใหม่ แต่หนุ่มเศรษฐีคนนี้มีฐานะด้อยกว่าสามีเก่าครึ่งหนึ่ง หลังจากอยู่กินกันได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น สามีของนางก็รู้สึกเกลียดนาง และขอเลิกกับนางในที่สุด ทั้งๆที่นางก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ในครั้งที่สาม บิดาของนางอิสิทาสี จึงเรียกให้ชายขอทานผู้หนึ่งมาแต่งงานกับนางอิสิทาสี แต่อยู่กินกันได้ไม่นาน ชายขอทานผู้นี้ก็รู้สึกเกลียดนาง ไม่อยากอยู่ร่วมกับนางอีกต่อไป โดยไม่มีเหตุผลเช่นกัน

ด้วยเหตุที่นางถูกสามีทอดทิ้งถึงสามครั้ง ทำให้นางเศร้าใจอย่างมากถึงขนาดคิดอยากฆ่าตัวตาย จนวันหนึ่งเห็นภิกษุณีนามว่าชินทัตตาได้บิณฑบาตรผ่านหน้าบ้าน ทำให้นางมีความคิดอยากบวชเป็นภิกษุณี จึงได้นิมนต์ท่านเพื่อถวายภัตตาหาร นางอิสิทาสีได้แจ้งว่าตนปรารถนาอยากบวชเป็นภิกษุณี คราแรกบิดาได้ห้ามไว้เพราะไม่อยากให้บวช แต่แล้วก็ต้องยอมให้นางบวชในที่สุด

หลังจากบวชแล้ว นางอิสิทาสี ได้ปฏิบัติธรรมเจ็ดวันก็บรรลุธรรม ได้ความรู้วิเศษสามอย่างหรือที่เรียกว่า วิชชาสามคือ หนึ่งในคุณวิเศษนั้น คือ “การระลึกชาติย้อนหลัง” ท่านระลึกได้ ๗ ชาติ  ทำให้ทราบว่าเพราะกรรมใด สามีจึงทอดทิ้ง? ซึ่งจะขอกล่าวเพียง กรรมในชาติที่ ๖ ที่นางได้ก่อไว้ อันส่งผลให้ได้รับผลกรรมในชาติที่ ๗  ดังนี้คือ  ในชาติที่ ๖  นางเกิดเป็นเด็กหญิงในตระกูลช่างสานเสื่อ มีฐานะยากจน มีหนี้สินมาก เมื่อโตเต็มวัยอายุ ๑๖ ปี นายคิริทาส ซึ่งเป็นบุตรของนายกองเกวียนได้เกิดความชอบพอ  จึงขอไปเป็นภรรยา แต่นายคิริทาสก็มีภรรยาอยู่แล้วหนึ่งคน  เมื่ออยู่กินกันไป ตัวนางเองได้บังคับให้นายคิริทาสขับไล่ภรรยาหลวง ด้วยกรรมที่นางได้ก่อขึ้นในชาติที่ ๖  นี้เอง จึงเป็นเหตุให้ชาติที่ ๗ นางต้องถูกสามีทอดทิ้งด้วยความเกลียดชังถึงสามครั้งนั่นเอง

นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างเกี่ยวกับความเชื่อในกฎแห่งกรรมเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง ถูกทอดทิ้งจากคนรักอยู่เสมอ แม้ว่าตนจะทำดีแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ยังเป็นฝ่ายที่ถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี ขณะเดียวกันตัวเราเองก็ไม่อาจทราบว่าในอดีตเคยก่อกรรมในลักษณะนี้หรือไม่? จึงต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ต้องใช้วิจารณญาณ  …  อย่างไรก็ตาม…ยังมีอีกหลายเหตุปัจจัยที่นำมาสู่ความไม่สมหวังในความรักได้เช่นกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=10029&Z=10137