ประโยชน์ของไหลบัว หลดบัว ผักสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น กินช่วยแก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ




ประโยชน์ของไหลบัว หลดบัว ผักสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น กินช่วยแก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ

ไหลบัว หรือ หลดบัว เป็นผักสมุนไพรมีฤทธิ์เย็นที่คนไทยนิยม รับประทานมายาวนานเป็นหน่อของบัวที่งอกขึ้นมา เพื่อเจริญเป็นลำต้นใหม่ ลักษณะเป็นก้านยาวๆ สีขาว เมื่อนำมารับประทานจะมีความกรอบ จึงนิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู

ไหลบัว มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้การปรุงเมนูไหลบัว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก เพราะไหลบัวนั้นมีรสขมบางๆ จึงถูกจัดเป็นอาหาร ฤทธิ์เย็น ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนในร่างก า ย ปรับสมดุลร่างก า ยได้ดีอย่างมาก เอาล่ะวันนี้นำทั้งสาระน่ารู้ พร้อมสูตรเมนูไหลบัวมาดูกันเลยดีกว่า

ไหลบัว คืออะไร

ไหลบัวนั้นเป็น “หน่อของบัว” (ต้นอ่อน) หรือ ส่วนที่งอกขึ้นมาและจะเจริญ เป็นลำต้นใหม่ต่อไป สีของไหลบัวจะเป็นสีขาว ไหลบัวที่เรานิยมนำมากินนั้นเป็น บัวหลวง หรือ บัวบูช า พ ระ และจะมีความกรอบกว่าสายบัว นิยมนำมาทำแกงส้ม หรือผัดน้ำมันกับเ นื้ อสัตว์ต่างๆ ในปัจจุบันไหลบัวสามารถหาซื้อได้ง่ายตามตลาดสดหรือซุปเปอร์มาเก็ตไกล้บ้านแล้วนะคะ

ไหลบัวกับสายบัวต่างกันอย่างไร

ไหลบัว หรือ หลดบัว คือส่วนหนึ่งของดอกบัวที่กำลังงอกออกมา เพื่อเจริญเติบโต เป็นต้นใหม่ ลักษณะของไหลบัวจะเป็นก้านยาวๆ สีขาวนวล กดแล้วจะไม่ยุบ แ ต กต่างจาก สายบัว ที่เวลากินจะต้องลอกเปลือก ออกก่อน

สรรพคุณไหลบัว

– ดับพิษร้อนในกาย

– แก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ

– มีเส้นใยอาหารมาก ช่วยแก้โรคท้องผูกได้

– ช่วยลดอาการเกร็งของลำไส้และกระเพาะ

– ลดความเครียดทางสมอง

– บรรเทาอาการท้องผูก

– ขับปัสสาวะ


ไหลบัวกับอาหาร

เ นื้ อสัมผัสของไหลบัวนั้น มีความกรอบๆ มากกว่าสายบัว ดังนั้นการเลือกเมนูที่ จะมีปรุงนั้นค่อนข้างง่าย ส า มารถปรุงในเมนู ยำ แกงส้ม หรือผัดน้ำมันหอย ก็อร่อยถูกปากแน่นอน อีกทั้งไหลบัวมีรูหรือโพลงเยอะ จึงทำให้ดู ด ซั บรสชาติได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

วิธีทำให้ไหลบัว ไม่ดำอีกหนึ่งวิธีคือ หลังจากล้าง หั่ นเป็นชิ้นตามต้องการ ใช้แช่ลงในอ่าง น้ำผสมเกลือ จะทำให้ไหลบัวไม่ดำและกรอบมากขึ้น


ที่มา..Loklilub
ประโยชน์ของไหลบัว หลดบัว ผักสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น กินช่วยแก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ ประโยชน์ของไหลบัว หลดบัว ผักสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น กินช่วยแก้อ่อนเพลียและบำรุงหัวใจ Reviewed by Dusita Srikhamwong on กันยายน 28, 2562 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.