วิธีทำแกงกะทิสายบัวปลาทู แกงกะทิโบราณ รสชาติละมุน กลิ่นหอม ด้วยขั้นตอนการทำง่ายๆ
สายบัวมีประโยชน์มากกว่าที่คิด นอกจากความหวานกรอบของมันแล้วคุณสมบัติของสายบัวยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้นช่วยลดความร้อนในร่างกายอีกด้วย แบบนี้เหมาะสำรับคนธาตุไฟอย่างเรา แกงไทยบ้าน ๆ สายบัวกะทิปลาทู จัดให้เป็นแกงกะทิโบราณที่เป็นอมตะเพราะไม่เคยตกยุคสมัย ปัจจุบันแกงชนิดนี้ยังคงเป็นแกงยอดนิยมทั่วไป เราเข้าครัวมาลงมือทำกัน
ส่วนผสม
-สายบัวลอกเปลือกออก หักเป็นท่อนๆ 400 กรัม
-ปลาทูแกะเอาแต่เนื้อ 4 ตัว
-น้ำตาลมะพร้าว ½ ช้อนโต๊ะ
-กะทิ 4 ถ้วย
-น้ำเปล่า 2 ถ้วย
-หอมแดง 6 หัว
-พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
-กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 1 ทัพพี
-น้ำมะขามเปียกคั้น 3 ช้อนโต๊ะ
-โหระพาเด็ดใบ
วิธีต้มน้ำแกงสายบัว
แกงสายบัว เอาสายบัวไปต้มก่อนเพื่อให้ยางดำออกไปวิธีต้มน้ำทิ้งก่อนจะทำให้สีของแกงไม่ดำและหมองคล้ำ มันก็จริงตามนั้นสายบัวภาพบนเป็นบัวสายแดง ต้มแล้วล้างน้ำเย็นกลายเป็นสีเขียวแบบนี้บีบน้ำจากตัวสายบัวออกก่อน บีบให้แห้งก็ดี ตอนต้มน้ำจะได้ไม่ออกมา
วิธีทำ
1. โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอียดกัน แล้วใส่กะปิ โขลกต่อให้ละเอียดดีใส่รากผักชีซอย ใส่หอมแดงซอยลงไปโขลกรวมใส่เกลือหยาบนิดหน่อยเพื่อให้โขลกง่ายและกันหอมกระเด็นเข้าตาสุดท้ายใส่กะปิ โขลกทั้งหมดให้ละเอียดและเข้ากัน ตักใส่ภาชนะ
2. นำกะทิใส่ลงไปในหม้อเติมน้ำเปล่า เอาขึ้นตั้งไฟ นำน้ำพริกแกงที่ตำไว้แล้วใส่ลงไป คนให้ละลายแล้วรอให้เดือด จนมีกลิ่นหอมแล้วใส่สายบัวลงไป
3. ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลมะพร้าวและน้ำมะขามเปียก น้ำปลา คนให้เข้ากันพอสายบัวสุกใส่ปลาทูแกะแล้ว คนเบาๆให้เข้ากันใส่ใบโหระพา ชิมรสตามใจชอบ
4. ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้ค่ะ
แหล่งที่มาจาก : kinpungkang.com
วิธีทำแกงกะทิสายบัวปลาทู แกงกะทิโบราณ รสชาติละมุน กลิ่นหอม ด้วยขั้นตอนการทำง่ายๆ
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
ตุลาคม 30, 2562
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: