อยู่แบบโง่ๆแล้วเป็นสุข ยังจะดีกว่าทุกข์เพราะอวดฉลาด




อยู่แบบโง่ๆแล้วเป็นสุข ยังจะดีกว่าทุกข์เพราะอวดฉลาด

ความเก่งกาจไม่อาจบอกได้ว่าใครคนไหนมีความสุขเท่าไหร่ ทุกอย่างที่สมบูรณ์แบบ

ไม่อาจเติมเต็มให้หัวใจอิ่มเอมได้ ไอคิวที่สูงส่งไม่อาจวัดคุณค่าของชีวิตคน

คนที่ว่าแสนฉลาดไม่อาจเป็นการยืนยันว่าใครคนนั้นจะดำเนินชีวิตได้มีสุขมากกว่าใครคนอื่น

คนส่วนใหญ่มักจะนิยมชมชอบคนฉลาด เธอนี่เก่งจังเลยนะ

กินอะไรมาวะ เก่งเกินแล้ว ทำได้ไงวะ เรานี่ชาตินี่ไม่รู้จะทำได้รึเ  ป  ล่  า

วันหลังช่วยสอนเราหน่อยดิ

ยิ่งฉลาดยิ่งเป็นที่สนใจ ยิ่งฉลาดยิ่งดูโดดเด่น ยิ่งฉลาดยิ่งน่าทำความรู้จักไว้

แต่บางทียิ่งฉลาด  อาจยิ่งมีความสุขน้อยลงก็ได้ อยู่อย่างโง่ๆแล้วสุขดีกว่าทุ  ก  ข์เพราะฉลาด

ไม่จำเป็นต้องฉลาดกับเรื่องที่ควรแกล้งโง่ บางครั้งการปิดหูปิดตาไม่รู้ ไม่ดู

ไม่สนใจ ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า จะสอดส่องไปเพื่ออะไรถ้ารู้แล้วรกสมอง

เห็นแล้วป  ว  ดใจ ทำอะไรไม่ได้นอกจากทุ  ก  ข์

เ  อ   าเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย อะไรก็ได้ที่มีความสุข ทำแล้ว

ชีวิตดี จิตใจไม่ขุ่นมัว ไม่ต้องท  ร  ม  า   เพราะรู้มาก

ชีวิตวุ่นวายพอแล้ว อย่าดิ้นรนหาขยะมาใส่สมอง

เหลือพื้นที่ว่างๆเ อ  าไว้เก็บเรื่องดีๆ คนฉลาดแท้ๆมักชอบแกล้งโง่

ส่วนคนอ  ย  า  กรู้ไปทุกเรื่องแต่จัดการอะไรไม่ได้สักเรื่องนั้น นั่นแหละโง่จริง

คุณเคยรู้ทุกอย่างแต่เลือกที่จะแกล้งโง่บ้างมั้ยหล่ะ

6 ข้อดีของคนไม่อวดฉลาด ไม่พูดมาก ดีกับชีวิตจริงๆ

คงไม่มีใครอ ย า ก  ดูเป็นคน โ ง่ ในสายตาคนอื่น แต่การพ ย า ย า มทำตัวฉลาด

ทั้งที่ฉลาดไม่จริง หรือแม้จะฉลาดจริงก็ตาม มักส่งผลในแง่ลบมากกว่าแง่บวก

ในขณะที่การแกล้ง โ ง่ ที่ดูเหมือนเป็นแง่ลบนั้นกลับได้ประโยชน์มากกว่า

1. ทำให้มีเวลามากขึ้น

คนอวดฉลาด ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็มักต้องทำงานมากกว่าคนอื่นหากอยู่ที่ทำงาน

และไม่เพียงงานของตนเองจะมากกว่าเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ยังมักต้องคอยช่วยเหลืองานคนอื่น

จนกลายเป็น เจเ  น  รั ลเบ๊ ของที่ทำงานไปโดยปริ ย า ย เมื่ออยู่บ้าน

แทนที่จะได้พักผ่อน ก็กลับต้องทำโน่นทำนี่ จนกลายร่างเป็น คุณแจ๋ว

ไม่ต่างจากตอนอยู่ที่ทำงาน ตรงกันข้ามกับคนที่ถูกมองว่า โ ง่ หรือทำอะไรไม่เป็น

ก็จะได้ทำแต่หน้าที่ของตนเองเท่านั้น เมื่อไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับงานของคนอื่น

จึงมีเวลามากพอสำหรับทำเรื่องที่จำเป็นมากกว่า อย่างการวางแผนเพื่อเดินตามความฝัน

2. ทำให้ชีวิตสบายขึ้น

ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านเก่ง ก็มีแนวโน้มว่า เมื่อแต่งงานไปแล้ว

จะต้องเป็นคนดูแลงานบ้านทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วยก็ตาม

แต่ผู้หญิงที่ทำงานบ้านไม่เป็นหรือแสดงออกว่าทำงานบ้านไม่เก่ง

จะสาม  า   ร  ถหลีกเลี่ยงงานน่าเบื่อนี้ไปได้

3. ทำให้ฉลาดขึ้น

อัญชุลี คิดว่าเธอเป็นคนฉลาด และเธออ ย า กให้คนอื่นเชื่อเช่นนั้นด้วย เธอจึงพ ย า ย า ม

ทำตัวเป็นคนฉลาด แน่นอน เธอจะไม่ยอมถามคำถามอะไรเ  ด็  ดข าด

เพราะคนฉลาดย่อมรอบรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เธอจึงไม่เคยกำจัดความสงสัย

หรือความไม่รู้ทิ้งไปได้เลย

ส่วนวิชชุดา เธอเป็นคนประเภทตรงกันข้ามกับอัญชุลี เธอคิดว่าตนเองไม่ฉลาด

ซึ่งมันก็ส่งผลให้เธอไม่กังวลว่าใครจะมองเธอว่าโ ง่ เมื่อมีปัญหา หรือมีเรื่องที่ไม่เข้าใจ

เธอกล้าที่จะถาม และขอคำแนะนำจากคนอื่น ทำให้ความสงสัยถูกกำจัดทิ้งไป

และถูกแทนที่ด้วยความรู้ วิชชุดาจึงรู้มากขึ้น

ในขณะที่อัญชุลียังคงไม่รู้อยู่เหมือนเดิมด้วยความที่คนอวดฉลาด ต้องการสร้างภาพลักษณ์

ว่าตนเป็นคนฉลาด จึงทำให้ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตนไม่มีความรู้

เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นมองว่าตนเองโ ง่ หารู้ไม่ว่า การไม่ถาม

หรือการพ ย า ย า มทำตัวฉลาดนี่ล่ะ ตัวการสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นคนโ ง่

หากกล้ายอมรับว่าตนเองไม่รู้ และเอ่ยปากถามออกไป ไม่นาน

ก็จะได้คำตอบที่ช่วยคลายความสงสัยได้ และความโ ง่ก็จะหายไป

แต่หากไม่กล้าถาม ความสงสัย และความไม่รู้ก็จะยังอยู่ตรงนั้น

ความโ ง่ก็   ด้วย การถามคำถามที่ไม่เข้าใจออกไป จึงเป็นการโ ง่

เพียงวินาทีเดียว แต่การแกล้งทำตัวฉลาด ไม่ยอมถามทั้งที่ไม่รู้

จึงเหมือนเป็นการผูกตัวเองไว้กับความโ ง่ไปตลอดชีวิต

4.ทำให้พัฒนาตนเองได้มากขึ้น

คนอวดฉลาดที่หลงลำพองในตัวเอง มองว่าตัวเองรอบรู้ทุ ก  ด้าน และไม่จำเป็น

ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว จะไม่สาม  า  ร  ถพัฒนาตนเองไ  ด้  อีก

เหมือนกับอึ่งอ่างที่พองตัวอยู่ในกะลาแคบๆ จนไม่สาม  า ร  ถขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้

ตรงกันข้ามกับคนแกล้งโ ง่ ที่จะทำตัวเล็กลีบอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ที่ใด

จึงไม่คับแคบ และยังสาม  า ร  ถเดินต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่เจอทางตัน

เพราะพวกเขาคิดว่า ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก จึงทำให้พวกเขา

สาม  า  ร  ถพัฒนาตนเอง และก้าวหน้าต่อไปไ  ด้  อีก ในขณะที่คนอวดฉลาด

จะยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งนับวัน ก็ยิ่งจะถอยหลังเข้าคลองไปทุกที

5. ทำให้รู้ข้อมู  ล มากขึ้น

อนันตชัยถูกใจผู้หญิงคนหนึ่งที่พบกันที่บาร์เขาจึงเข้าไปคุยกับเธอ

และแกล้งโ ง่เออออตามเธอทุกอย่าง เธอจึงคุยอะไรต่อมิอะไรให้เขาฟังมากมาย

ตั้งแต่เรื่องหน้าที่การงานว่าเธอทำงานอะไร มีปัญหากับเจ้านายอย่างไร

มีเพื่อนสนิทกี่คน ครอบครัวมีใครบ้าง เธอเคยมีแฟนมาแล้วเท่าไร

ทำไมจึงเลิกกัน เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไรตลอดจนเธอไปศัลย ก ร ร ม จมูกที่ไหน

บรรดาสายลับในหนัง เมื่อต้องปลอมตัวไปสืบข้อมู  ล ต่างๆ

ก็มักแกล้งทำเป็นคนซื่อๆ เหมือนคนที่ไม่รู้รื่องราว และไมมี่ พิ ษ ภั   ย

อะไรหรือพูดง่ายๆ คือแกล้งโ ง่นั่นเอง ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาสาม   า ร  ถสืบข้อมู  ล

ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เพราะคนอื่นๆ ต า ย ใจจนไม่ทันได้ระวังตัวคุณสมบัติ

ในการเป็นผู้ฟังที่ดีของคนแกล้งโ ง่ สาม  า  ร  ถล้วงความลับของใครต่อใครได้มากมาย

เพราะเมื่อคนอื่นมองว่า คุณเป็นคนโ ง่คนหนึ่ง ที่ไม่มี พิ ษ สงอะไร

จะทำให้เขาระวังตัวน้อยลง และกล้าเปิดปากพู   ด  อะไรมากขึ้น

คุณจึงสาม  า  ร ถรู้ข้อมู  ล ทุกเรื่องที่อ ย า กรู้ได้เพียงแกล้งโ ง่เท่านั้น

6. ทำให้มีประสบการณ์ และได้เรียนรู้มากขึ้น

คนอวดฉลาดมักทำอะไรอยู่ในกรอบความฉลาดของตนเองและจะไม่ยอม

ทำอะไรเสี่ยงๆ หรือทำสิ่งที่ตนเอง หรือคนอื่นมองว่าเป็นเรื่องโ ง่ๆ เด็ดขาด

ทำให้พวกเขาหมดโอกาสที่จะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ไปอย่างน่าเ   สี  ยดาย

ถ้าไม่ยอม แ ก ล้ งโ ง่ เปิดใจรับฟังบรรดาพนักงานขายทางโทรศัพท์

ก็คงไม่มีโอกาสรู้ว่า มีโปรโมชั่นบัตรเครดิตดีๆ ที่อาจช่วยให้

การใช้จ่ายในแต่ละเดือนคล่องตัวขึ้น

ถ้าไม่ยอมแกล้ง โ ง่ ออกไปท่องเที่ยวโดยไม่วางแผนดูบ้าง

ก็คงไม่เคยมีประสบการณ์สนุกๆ

ถ้าไม่ยอมแกล้ง โ ง่ ทำเรื่องที่น่าเสี่ยงดูบ้าง ก็คงไม่มีทางรู้ว่า

ความล้มเหลวเป็นอย่างไร

เมื่อไม่รู้จักความ ล้ ม เ ห ล ว ก็คงทำความรู้จักความสำเร็จได้ ย า ก

คนโ ง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด คนฉลาดเป็นเหยื่อของคนแกล้งโ ง่


ขอบคุณแหล่งที่มา aanplearn
อยู่แบบโง่ๆแล้วเป็นสุข ยังจะดีกว่าทุกข์เพราะอวดฉลาด อยู่แบบโง่ๆแล้วเป็นสุข ยังจะดีกว่าทุกข์เพราะอวดฉลาด Reviewed by Dusita Srikhamwong on กุมภาพันธ์ 01, 2563 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.