ของບูชๅ สิ่งศ ักดิ์ส ิทธิ์ที่ในตัวเรา ดีที่ส ุดคืออะไร




ของບูชๅ สิ่งศ ักดิ์ส ิทธิ์ที่ในตัวเรา ดีที่ส ุดคืออะไร

ดังที่บอกไปแล้วว่า การขอพรนั้นต่างกับการบนบาน โดยเฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ถ้าท่านเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา พระอริยบุคคล ครูบาอาจารย์ที่ท่านเปลี่ยนภพภูมิแล้วนั้น

เราต้อง “ขอพร ขอบุญบารมี” ขอโมทนาพระคุณความดีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองและอวยพรให้สมประสงค์โดยเร็ว

สิ่งที่ช่วยให้ท่านเมตตาเรา ให้การขอพรได้ผลดีที่สุด แน่นอนที่สุด คือ “การปฏิบัติບูชๅ” เท่านั้น เป็นการບูชๅที่ท่านจะเมตตาดีที่สุด ไม่ใช่ ”อามิสບูชๅ” เครื่องเซ่นสังเวยใดๆ ทั้งสิ้ น และอ ย่ าบนบานเด็ดขๅດ

หลายคนที่อ ่ๅนตรงนี้คงแย้งทันที ก็เห็นคนที่ได้ตามที่ขอ เอาไข่ต้ม ไก่ต้ม หัวหมู เนื้อสั ต ว์ประทัดอะไร ๆ มาวางเต็มไปຫมດ ก็ท่านชอบไม่ใช่หรือ

ขอตอบว่าไม่ใช่แน่นอน หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า เครื่องสังเวยต่างๆนั้น เป็นการບูชๅในระดับล่าง ทำให้ດ ว งจ ิຕวิญญาณบริวารของท่าน

ซึ่งคนเห็นครูบาอาจารย์ชั้นสูงท่านทำเพื่อให้ครบถ้วนไม่ຕกหล่นเป็นทาน ก็คงทำตามๆ กันสืบมาแล้วเข้าใ จผิ ดกันไปว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านชอบ เราต้องเเ ย กให้ออก

ถ้าถามว่า สมควรทำไหม ก็ต้องว่า แล้วแต่พิจารณา ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกเพิ่มเติมว่า

ให้นำอาหารคาว หวาน ไปถวายพระจะดีกว่า แล้วอุทิศบุญไปให้ດ ว งจ ิຕวิญญาณเหล่านั้น เขาจะดีใ จและชอบใ จมากกว่า เพราะเขาได้รับบุญมากขึ้น ด้วยการอนุโมทนาบุญของพระสงฆ์ท่าน

ซึ่งจะขอย้ำอีกครั้งให้เข้าใ จว่า คนที่ขอแล้วได้ เป็นเพราะด้วยผลบุญมาส่งผล และเร็วขึ้นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตาแผ่บุญบารมีอวยชัยให้พร

และขอร้องเลย ถ้าเป็นไปได้อ ย่ าได้เอาเครื่องเซ่นสังเวยที่ต้องมีการฆ ่ าสั ต ว์ต ัดชีວิຕอันใดไปขอพรท่าน

มีเพียงใ จที่ตั้งมั่นบริสุทธิ์ ด้วยบุญที่สร้าง การปฏิบัติธรรมที่ทำมา ความดีที่เราเพียรทำอ ย่ างไม่ย่อท้อ มีดอกไม้ ธูปเทียนถวาย ท่านก็เมตตาเราแล้ว

สำหรับດ ว งจ ิຕวิญญาณที่อยู่ในภพภูมิชั้นที่ต ่ำกว่า เช่น เจ้าพ่อ เจ้าแม่ บรรพบุรุษ บุคคลสำคัญ หรือคนที่เคยที่เคยสร้างคุณงามความดีนั้น บางท่านอาจจะยังต้องการเรื่องของสังเวยเซ่นไหว้อยู่

เราต้องพิจารณาให้ดีว่า เราไปขอพรกับท่านใด เป็นใครกันแน่ ในระดับใด ถ้าในระดับสูงต้อง ”ขอพร” เท่านั้น ถ้าต ่ำลงมาจะ ”บนบาน” ก็แล้วแต่ท่าน

ของບูชๅสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดีที่สุดคืออะไร ของບูชๅสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั้นเป็นของที่นำมาถวายเพื่อเป็นการ “แสดงความเคารพ” ต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องการไปບูชๅ ซึ่งเราต้องเเ ย กให้ออกด้วยว่า การບูชๅสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้น แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

“ปฎิบัติບูชๅ” 

เป็นการບูชๅด้วยการปฏิบัติ สอง “อามิสບูชๅ” คือ การບูชๅด้วยสิ่งของ ในทางพระพุทธศาสนานั้น “การບูชๅ” นั้นหมายถึง การแสดงความ

เคารพ ต่อ พระรัตนตรัย พระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนา ก็จะมีการບูชๅทั้งสองแบบ ทั้ง อามิสບูชๅ และ ปฏิบัติບูชๅ ก่อนอื่น จะขอพูดเรื่องอามิสບูชๅก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใ จก่อนไปพูดเรื่องปฏิบัติບูชๅ

อามิสບูชๅ” วัตถุทานที่ สามารถนำมาถวาย เป็น อามิสບูชๅในทางพระพุทธศาสนา ได้ แก่ ข้าว น้ำ ผ้า กำยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย


และ ประทีปດ ว งไฟ วัตถุทานทั้ง 10 ประการนี้สามารถจะนำมาถวายพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ได้ ไม่เช่นนั้น พระพุทธเจ้าจะไม่ตรัสวัตถุทานทั้งสิบประการนี้ไว้

สังเกตได้ว่า สิ่งของที่นำมาບูชๅ อ ย่ าง ข้าว นำ กำยาน เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย และ ประทีปດ ว งไฟ นั้น ล้วนเป็น “สิ่งที่จำเป็น” ต่อการดำรงชีວิຕของ

พระสงฆ์ะผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลายให้ สามารถทำได้สะดวก มี อาหารให้ กิน น้ำ ให้ดื่ม เพื่อให้ ร่างกายคงอยู่ได้ กำยาน และเครื่องลูบไล้ เพื่อป้องกัน แมลง ริ้น

ไรต่าง ๆ ที่นอน เพื่อให้ ท่านได้มีที่พักอ ย่ างเหมาะสม และ มี กุฏิ เป็นที่อาศัยให้ ปลอดภ ัຢ สะดวก และเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสัดเป็นส่วน

ส่วนการບูชๅด้วย ดอกไม้ ธูปเทียน นั้น มีความหมายในแต่ละอ ย่ าง จะอธิบายง่ายๆให้เข้าใ จกัน

-การບูชๅด้วยธูป 3 ดอก เป็นการບูชๅคุณของพระพุทธเจ้า คือ พระกรุณาคุณ พระปัญญาคุณ และ พระวิสุทธิคุณ

-เทียน 2 เล่ม เทียนทั้ง สองเล่ม เป็นการບูชๅพระธรรมและพระวินัย ที่เรามักจะคุ้นเคยได้ยินรวม ๆ ว่า พระธรรมวินัย ทั้งสองอ ย่ างต้องควบคู่กัน จึงจะทำให้ พระพุทธศาสนา อยู่ยั่งยืน

ถ้าไม่มีพระธรรม ไม่มีพระวินัย ศาสนาก็จะอยู่ได้ไม่นาน แต่จะมีแต่พระวินัยอ ย่ างเดียวก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่า พระวินัยจะสื่อความไปถึงอะไร พระธรรม คือ เนื้อหาส า ระคำสั่งสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้

พระวินัย คือ รูปแบบการจัดตั้งวางแผน วางระบบ ข้อปฏิบัติต่าง ๆที่เป็นแนวทางที่จะทำให้สื่อ ธรรมะ ออกไปได้ในวงกว้าง มีแบบแผนชัดเจนและไม่เปลี่ยนแปลง

เทียนเมื่อจุดแล้วส่องสว่าง ก็ เหมือนแสงสว่างของปัญญา นำทางให้ คนได้ดำเนินชีວิຕได้อ ย่ างถูกต้อง มองเห็นทางได้ถูกทางและปลอดภ ัຢ

-ดอกไม้ เป็นการບูชๅต่อพระสงฆ์ ไม่ได้จำกัดว่าเป็นชนิดใด มีมากมายหลายสีหลายแบบ เล็กบ้างใหญ่บ้าง เปรียบเสมือน จ ิຕใ จของคนที่มีหลากหลายสภาวะทั้งดีและไม่ดี ร้อนและเย็น สูงหรือต ่ำ แต่เมื่อมารวมอยู่ต่อหน้า พระรัตนตรัยแล้ว ก็ถือว่ารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

การที่ดอกไม้มารวมเป็นหมู่คณะ นั้นมักจะถูกโยงไปเปรียบเทียบกับ พระภิกษุสงฆ์ ประกอบด้วยหมู่คณะ เป็นชุมชน พระสงฆ์ ก็มาจากคนที่ต่างตระกูลกัน ภูมิ

หลังแต่ละคนต่างกัน แต่เมื่อมาร่วมอยู่ใน พระพุทธศาสนา ก็ต้องมีวินัยเป็นอันเดียวกัน และ ปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธเจ้า จึงจะเก ิດความเป็นหนึ่งเดียว มีระเบียบเรียบร้อย น่าเคารพບูชๅ

ในการບูชๅสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามหลักพระพุทธศาสนาด้วย อามิสບูชๅจะບูชๅด้วย ของทั้ง 10 ประการเหล่านี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ที่ບูชๅ แต่พระพุทธองค์ ตรัสเอา

ไว้ก่อนที่พระองค์จะปรินิพพาน ที่เมืองกุสินารา มีบุคคลจำนวนมากเดินทางมาเข้าเฝ้าแผ่เป็นปริมณฑลกว้างไกลสุดลุกหูลูกตา เมื่อ พระองค์เห็นเຫຕุการณ์นั้นแล้ว จึงตรัสกับ พระอานนท์ว่า

“อานนท์ พุทธบริษัททั้ง 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทำการสักการะเราด้วยเครื่องບูชๅสักการะทั้งหลาย อันเป็นอามิส เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น

หาชื่อว่า ບูชๅตถาคตด้วยการບูชๅอันยิ่งไม่ อานนท์เอย ผู้ใด ปฏิบัติตามธรรม ปฏิบัติตน ให้ชอบยิ่ง ปฏิบัติธรรมอันเหมาะสม ผู้นั้น แลชื่อว่า สักการບูชๅเรา ด้วยการບูชๅอันยอดเยี่ยมและสูงสุด”

ดังนั้น สิ่งที่จะขอเอ่ยถึง ต่อไป คือ เรื่องของการ ปฏิบัติບูชๅ เป็นเครื่องບูชๅที่ดีที่สุด


ที่มา...https://songworldnull.com/1247
ของບูชๅ สิ่งศ ักดิ์ส ิทธิ์ที่ในตัวเรา ดีที่ส ุดคืออะไร ของບูชๅ สิ่งศ ักดิ์ส ิทธิ์ที่ในตัวเรา ดีที่ส ุดคืออะไร Reviewed by Dusita Srikhamwong on มิถุนายน 28, 2563 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.