เคล็ดลับ “เลิกสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับคุณ” แล้วคุณจะไม่หวังอะไรกับใครอีกเลย




เคล็ดลับ “เลิกสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับคุณ” แล้วคุณจะไม่หวังอะไรกับใครอีกเลย

การ วิ ต ก กังวลเกี่ยวกับความคิดของผู้อื่นมากเกินไป อาจถูกมองว่าเป็นพฤติก ร ร มของเด็กมัธยม

แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็จะกลาย เป็นปัญหาใหญ่ได้ทั้งกับความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวคุณเอง

แม้ว่ามนุษย์จะเกิดมาเพื่อมองหาการยอมรับ จากผู้อื่นแต่ก็มีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างความซื่อตรงกับการยอมให้

ความคิดของผู้อื่น ตั ด สินคุณค่าของคุณ หากคุณต้องการสลัดพฤติก ร ร มนี้ทิ้งไปก็จงปฏิบัติเลยและ

นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ แต่ทรงพลังที่สุดในการเลิกสนใจว่าคนอื่นจะคิดกับคุณยังไง

อย่ า คิดไปไกลว่าคนอื่นจะเป็นห่วงเป็นใยคุณ

บางคนเชื่อว่า โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่เห็นแก่ตัวแม้ว่าอาจจะฟังดูโ ห ด ร้ า ย แต่ก็ลอง

คิดดูดีๆ ในแต่ละวันคุณใช้เวลาคิดถึงคนอื่นกี่นาที? เก็บคำตอบไว้ในใจ นักวิจัยพบว่าเมื่ออาสาสมัครถูก

บั ง คั บให้สวมชุดน่าอายไปงานปาร์ตี้พวกเขามักจะคิดไปไกลว่าคนอื่นสังเกต เห็นการแต่งกายของพวกเขา (ทั้งที่จริงๆ แล้วอาจจะไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ)

เปลี่ยนรูปแบบคำบรรย า ย


น่าเสียดายที่การตระหนัก รู้ในตนเองมักจะมาพร้อมกับคำบรรย า ยที่ลดคุณค่าของตัวเองลงซึ่งวิ่งวนอยู่ในหัว

เคล็ดลับคือคุณควรเขียนบทใหม่ให้ตัวเองไม่มีใคร ทำให้คุณคิดหรือรู้สึกได้ทุกอย่ างเกี่ยวกับวิธีที่คุณแปล

ความหมายที่ซ่อนอยู่ใน การกระทำของพวกเขา ทางที่ดีควรเปลี่ยนการแปลความหมายของคุณซะเพื่อให้ตัวเอง

คิดและรู้สึกในทางบวกเพิ่มขึ้น

มุ่งมั่นในสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ คุณจะควบคุม ได้เฉพาะสิ่งที่คุณพูดความรู้สึกและการกระทำของตัวเองดังนั้นการ วิ ต ก กังวลเกี่ยวกับความคิด

และการกระทำของผู้อื่นจึงเป็นเรื่องที่เสียเวลาเอามากๆ ทางแก้คือคุณควร จัดการกับความคิดและการกระทำ

ของตัวเองที่เกี่ยวกับสถานการณ์บางอย่ า งเพื่อบรรเทาความรู้สึก วิ ต ก กังวลหรือเพื่อเพิ่มการตระหนักรู้ในตนเอง

เมื่อคุณแก้ไขสถานการณ์ได้ แล้วก็ควรก้าวเดินต่อไป อย่ า ติดอยู่ในวังวนความคิดและข้อคิดเห็นของผู้อื่น

เพราะรังแต่จะทำให้คุณคิดมากหรือเครียดโดยไม่จำเป็น


ขอบคุณที่มา Gangbeauty
เคล็ดลับ “เลิกสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับคุณ” แล้วคุณจะไม่หวังอะไรกับใครอีกเลย เคล็ดลับ “เลิกสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับคุณ” แล้วคุณจะไม่หวังอะไรกับใครอีกเลย Reviewed by Dusita Srikhamwong on มกราคม 17, 2564 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.