เวลารู้สึกไม่พอใจใคร เชื่อเถอะแค่ทำตัว“เฉยๆ” ไว้ก็พอ
หากรู้สึกไม่พอใจใคร เชื่อเถอะ “เฉยๆ” ไว้ก็พอเพราะความรู้สึกก็เป็นแค่เพียง “อ า ร ม ณ์ ชั่ ว วู บ ”คนเรามักชอบปล่อยให้อารมณ์ในด้านลบๆที่เกิดขึ้นแค่เพียง ชั่ ว ค ร า วเข้ามาครอบงำตัวเองกันอยู่เสมอซึ่งหลายต่อหลายครั้งแล้ว ที่อารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นได้ย้อนกลับมาทำ-ร้ า ย
แม้กระทั่งความรู้สึกของตัวเองและคนรอบข้างไปพร้อมๆ กันเพียงเพราะการไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ในระดับที่ดีมากพอรวมถึงการไม่ยอมเตือนตัวเองไว้อยู่เสมอว่าอารมณ์โกรธ ก็เป็นแค่เพียงอารมณ์ ชั่ ว วู บที่เกิดขึ้นมา ชั่ ว ครั้ง ชั่ ว ค ร า ว
ทางที่ดีก็จงอย่าเอาตัวเองเข้าไปเ สี ย ห า ย เพราะมันจะดีกว่าหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์ ย่ำ แ ย่ ลงหากมองเห็นแล้วว่า สถานการณ์ที่ร้อนเป็นไฟตรงหน้าเริ่มเกิดความ ย่ำ แ ย่ ลงจนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจที่มีอยู่ในตัวเองก็ควรทำใจให้เย็นมากขึ้น
โดยใช้ความนิ่งเงียบที่มี เข้าสยบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเผชิญและหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือปะทะคารมกับคนอื่นๆ หากกลัวว่าจะเผลอพูดอะไรที่ รุ น แ ร ง ออกไปจงรอให้ใจเย็นขึ้นมากกว่านี้ก่อนแล้วถึงจะเริ่มคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วยเหตุและผลที่ดีพอ
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเองเพราะภาพลักษณ์ที่ดี ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตของทุกๆ สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในสังคมคนวัยทำงาน ที่มักจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ รวมถึงผู้คนมากหน้าหลายตาซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความ ขั ด แ ย้ ง และความใจร้อนที่อาจเกิดขึ้นถ้าหากสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองรวมไปถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างเหมาะสม
อาจทำให้ถูกมองด้วยความชื่นชมจากสายตาของคนรอบข้างได้ว่าเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะมากพอเป็นตัวช่วยในการเรียกสติหลายครั้งที่ความนิ่งเงียบมักเป็นตัวช่วยที่ดีในการใช้เรียกสติกลับคืนมา เพราะเปรียบเสมือนว่าเรากำลังจมอยู่กับตัวเองและได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ภายใต้ความเงียบเหล่านั้นซึ่งมีส่วนทำให้สามารถฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างที่เคยมองข้ามไป
ทำให้กลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้นเมื่อได้ฝึกให้ตัวเองได้หัดใช้สติภายใต้ความนิ่งเงียบที่มีอยู่มากขึ้น
ก็อาจมีส่วนทำให้เราได้กลายเป็นคนที่มีความใจเย็นอยู่ภายในตัวเองมากขึ้นด้วยซึ่งสิ่งสำคัญของความใจเย็นนี้จะเป็นข้อดีที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาดกับสิ่งต่างๆ ได้น้อยลงและช่วยลดทอนการทำให้ตัวเองและคนรอบข้าง เสี ย ความรู้สึกได้มากยิ่งขึ้นด้วย
เป็นเรื่องที่ทำให้ เสี ย เวลาชีวิต เรื่องบางเรื่องก็ถูกจัดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ เสี ยเวลาชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์โดยเฉพาะกับเรื่องที่มักใช้แต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง ไร้ซึ่งเหตุผลต่างๆ ที่สมควรทางออกที่ดีคือ ควรมองข้ามปัญหาด้านอารมณ์เหล่านั้นไปซะแล้วหันมาเปลี่ยนเป็นการมองหาสาเหตุรวมไปถึงเหตุและผลที่เหมาะสม
ว่าอะไรที่มีส่วนทำให้เกิดสถานการณ์แย่ๆ พวกนี้ขึ้นมาจะดีกว่าไม่ก้าวขึ้นไปสู่จุดแตกหักเชื่อว่าใครต่างก็คงไม่อยากสร้างความร้าว ฉ า นหรือจุดแตกหักระหว่างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นกับใครอย่างแน่นอนเพราะมันคงดูไม่น่าจะใช่เรื่องที่สมควรเท่าไหร่นักถ้าหากวันหนึ่งจะต้องเลิกรู้จักกันไปเพียงเพราะปัญหาด้านอารมณ์ที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง
ที่มา kubkhao.com
หากรู้สึกไม่พอใจใคร เชื่อเถอะ “เฉยๆ” ไว้ก็พอเพราะความรู้สึกก็เป็นแค่เพียง “อ า ร ม ณ์ ชั่ ว วู บ ”คนเรามักชอบปล่อยให้อารมณ์ในด้านลบๆที่เกิดขึ้นแค่เพียง ชั่ ว ค ร า วเข้ามาครอบงำตัวเองกันอยู่เสมอซึ่งหลายต่อหลายครั้งแล้ว ที่อารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นได้ย้อนกลับมาทำ-ร้ า ย
แม้กระทั่งความรู้สึกของตัวเองและคนรอบข้างไปพร้อมๆ กันเพียงเพราะการไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ในระดับที่ดีมากพอรวมถึงการไม่ยอมเตือนตัวเองไว้อยู่เสมอว่าอารมณ์โกรธ ก็เป็นแค่เพียงอารมณ์ ชั่ ว วู บที่เกิดขึ้นมา ชั่ ว ครั้ง ชั่ ว ค ร า ว
ทางที่ดีก็จงอย่าเอาตัวเองเข้าไปเ สี ย ห า ย เพราะมันจะดีกว่าหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์ ย่ำ แ ย่ ลงหากมองเห็นแล้วว่า สถานการณ์ที่ร้อนเป็นไฟตรงหน้าเริ่มเกิดความ ย่ำ แ ย่ ลงจนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจที่มีอยู่ในตัวเองก็ควรทำใจให้เย็นมากขึ้น
โดยใช้ความนิ่งเงียบที่มี เข้าสยบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเผชิญและหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือปะทะคารมกับคนอื่นๆ หากกลัวว่าจะเผลอพูดอะไรที่ รุ น แ ร ง ออกไปจงรอให้ใจเย็นขึ้นมากกว่านี้ก่อนแล้วถึงจะเริ่มคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วยเหตุและผลที่ดีพอ
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเองเพราะภาพลักษณ์ที่ดี ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตของทุกๆ สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในสังคมคนวัยทำงาน ที่มักจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ รวมถึงผู้คนมากหน้าหลายตาซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความ ขั ด แ ย้ ง และความใจร้อนที่อาจเกิดขึ้นถ้าหากสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองรวมไปถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างเหมาะสม
อาจทำให้ถูกมองด้วยความชื่นชมจากสายตาของคนรอบข้างได้ว่าเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะมากพอเป็นตัวช่วยในการเรียกสติหลายครั้งที่ความนิ่งเงียบมักเป็นตัวช่วยที่ดีในการใช้เรียกสติกลับคืนมา เพราะเปรียบเสมือนว่าเรากำลังจมอยู่กับตัวเองและได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ภายใต้ความเงียบเหล่านั้นซึ่งมีส่วนทำให้สามารถฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างที่เคยมองข้ามไป
ทำให้กลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้นเมื่อได้ฝึกให้ตัวเองได้หัดใช้สติภายใต้ความนิ่งเงียบที่มีอยู่มากขึ้น
ก็อาจมีส่วนทำให้เราได้กลายเป็นคนที่มีความใจเย็นอยู่ภายในตัวเองมากขึ้นด้วยซึ่งสิ่งสำคัญของความใจเย็นนี้จะเป็นข้อดีที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาดกับสิ่งต่างๆ ได้น้อยลงและช่วยลดทอนการทำให้ตัวเองและคนรอบข้าง เสี ย ความรู้สึกได้มากยิ่งขึ้นด้วย
เป็นเรื่องที่ทำให้ เสี ย เวลาชีวิต เรื่องบางเรื่องก็ถูกจัดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ เสี ยเวลาชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์โดยเฉพาะกับเรื่องที่มักใช้แต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง ไร้ซึ่งเหตุผลต่างๆ ที่สมควรทางออกที่ดีคือ ควรมองข้ามปัญหาด้านอารมณ์เหล่านั้นไปซะแล้วหันมาเปลี่ยนเป็นการมองหาสาเหตุรวมไปถึงเหตุและผลที่เหมาะสม
ว่าอะไรที่มีส่วนทำให้เกิดสถานการณ์แย่ๆ พวกนี้ขึ้นมาจะดีกว่าไม่ก้าวขึ้นไปสู่จุดแตกหักเชื่อว่าใครต่างก็คงไม่อยากสร้างความร้าว ฉ า นหรือจุดแตกหักระหว่างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นกับใครอย่างแน่นอนเพราะมันคงดูไม่น่าจะใช่เรื่องที่สมควรเท่าไหร่นักถ้าหากวันหนึ่งจะต้องเลิกรู้จักกันไปเพียงเพราะปัญหาด้านอารมณ์ที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง
ที่มา kubkhao.com
เวลารู้สึกไม่พอใจใคร เชื่อเถอะแค่ทำตัว“เฉยๆ” ไว้ก็พอ
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
กันยายน 03, 2565
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: