แจกสูตรทำปลาหมึกย่าง+น้ำจิ้มสุดแซ่บ ทำกินเองง่ายๆ พร้อมวิธีจำกัดกลิ่นคาว

แจกสูตรทำปลาหมึกย่าง+น้ำจิ้มสุดแซ่บ ทำกินเองง่ายๆ พร้อมวิธีจำกัดกลิ่นคาว

ปลาหมึก คือของโปรดของสาวกอาหารทะเลทั้งหลาย ด้วยเนื้อที่หนึบเคี้ยวเพลิน ทำให้ปลาหมึกเข้าไปนั่งในใจใครหลายคน โดยเฉพาะเมื่อนำปลาหมึกไปย่างร้อนๆ กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน ฟินมาแล้วนักต่อนัก วันนี้แอดในจึงขอนำสูตรวิธีการหมักปลาหมึกเพื่อนำไปย่าง ฉบับทำขายเองยังได้ ตามด้วยเคล็ดลับวิธีการล้างปลาหมึกก่อนนำมาหมัก เปิดสูตรแล้วเข้าครัวย่างหมึกกันเลยดีกว่า

ปลาหมึกย่าง ที่เราเห็นร้านเค้าวางขายกันจะมีสีออกเหลืองๆ เป็นเพราะว่ามีส่วนผสมของผงขมิ้นในขั้นตอนการหมักปลาหมึกนั่นเอง ถ้าจะให้มีสีเหลืองสวยจึงต้องใส่ผงขมิ้นเข้าไปด้วย แต่หากใครไม่ชอบก็สามารถไม่ใส่ผงขมิ้นได้ ซึ่งวันนี้เรามีมาให้เลือกทั้ง 2 สูตร บอกเลยว่าง่ายมาก แต่ถ้าจะให้อร่อยก็ต้องพิถีพิถันตั้งแต่การเตรียม การล้างปลาหมึกนั่นล่ะ ถึงจะนำมาหมักและย่างได้

วิธีเลือกซื้อปลาหมึกสด

ปลาหมึกที่นิยมรับประทานมีอยู่หลายชนิด เช่น หมึกกล้วย หมึกกระดอง และหมึกยักษ์ ปลาหมึกทั้งสามชนิดมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันก็จริง แต่วิธีการเลือกซื้อคล้ายกัน ดังนี้

– ตาหมึกต้องใส ไม่ขุ่น เห็นตาดำด้านในได้อย่างชัดเจน

– หัวและลำตัวของหมึกต้องติดกันแน่น ไม่หลุดรุ่ย และต้องดึงออกจากกันได้ยาก

– เนื้อปลาหมึกต้องแน่น ไม่เละ เมื่อทดลองกดดู ต้องคืนตัวได้ทันที

– เยื่อหุ้มตัวหมึกต้องไม่หลุดรุ่ย ไม่ควรซื้อปลาหมึกที่ลอกเยื้อนี้ออกแล้ว

– หนวดปลาหมึกควรมีสภาพสมบูรณ์ แข็งและไม่เปื่อยยุ่ย

– เมื่อทดลองดมกลิ่น ต้องมีกลิ่นคาวตามธรรมชาติ ไม่เหม็นเน่า และไม่มีกลิ่นสารเคมี

– ถุงน้ำหมึกต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด

สูตรหมักปลาหมึกย่างสูตรหมักปลาหมึกย่าง

หมักปลาหมึกสูตรที่ 1

ปลาหมึก 2 กิโลกรัม

ผงขมิ้น 1 ช้อนชา

ซีอิ๊วดำหวาน 1ช้อนชา

น้ำเปล่า 2 ถ้วย (*สัดส่วนปรับได้ตามต้องการ)

วิธีหมัก

ผสมน้ำเปล่า ซีอิ๊วดำหวาน ผงขมิ้นเข้าด้วยกัน

แล้วนำปลาหมึกลงไปแช่ในน้ำหมักให้ทั่วทั้งชิ้น หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที หรือจนกว่าจะได้สีตามที่ต้องการ แล้วนำไปย่างได้ทันที

หมักปลาหมึกสูตรที่ 2

ปลาหมึก 2 กิโลกรัม

ซีอิ๊วดำหวาน 1/3 ถ้วย

น้ำเปล่า 2 ถ้วย (*สัดส่วนปรับได้ตามต้องการ)

วิธีหมัก

ผสมน้ำเปล่ากับซีอิ๊วดำหวาน แล้วนำปลาหมึกลงไปหมัก

นำไปแช่ในตู้เย็น ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

ก่อนย่างก็นำออกจากตู้เย็นพักไว้สักครู่จึงนำไปย่าง

วิธีการล้างปลาหมึกให้สะอาดและไร้กลิ่นคาว

เมื่อซื้อปลาหมึกมาขั้นตอนแรกให้ล้างปลาหมึกในน้ำผสมเกลือประมาณ 2-3 ครั้ง

นำสารส้มมาบดผสมกับน้ำเปล่า ใช้ล้างหมึกอีกครั้งเพื่อกำจัดกลิ่นคาวออกไป

นำปลาหมึกมาแช่น้ำปูนขาว (น้ำ 1 ลิตร : ปูนขาว 1 ช้อนโต๊ะ) แช่ไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ขั้นตอนนี้ช่วยให้เนื้อปลาหมึกกรอบอร่อยเวลารับประทาน

วิธีการเก็บปลาหมึกให้คงความสดได้นาน

คือ เก็บปลาหมึกใส่ถุง มัดปากถุงให้มิดชิด ปิดทับด้วยน้ำแข็งให้ท่วม แช่ไว้ในถังน้ำแข็ง ทำแบบนี้ปลาหมึกจะเก็บไว้ได้นานประมาณ 3 วัน แต่ต้องคอยเปลี่ยนน้ำแข็งที่ละลายออกแล้วเติมน้ำแข็งใหม่เข้าไปแทนที่ ที่สำคัญไม่ควรแช่เนื้อปลาหมึกในช่องแช่แข็งเพราะเนื้อปลาหมึกจะสูญเสียความกรอบ ไม่เด้งดึ๋งอย่างเดิม กินไม่อร่อยอีกต่างหาก

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด

พริกสดสีแดงและสีเขียวรวมกัน 100 กรัม

กระเทียมกลีบใหญ่ 50 กรัม

น้ำมะนาว (ใช้แบบขวดก็ได้) ¾ ถ้วยตวง

น้ำปลา ½ ถ้วยตวง

น้ำตาลทราย 100 กรัม

น้ำเปล่า 100 กรัม

วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด

นำน้ำตาลทรายและน้ำเปล่าใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม

ปิดไฟยกลง คนให้เย็น พักไว้

ใส่พริกสด กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำเชื่อมในข้อที่ 1

ลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด เทใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ

สูตรน้ำจิ้มเพิ่มเติม (สำหรับทำขาย)

“น้ำจิ้มเผ็ด”

พริกขี้หนูสด 2 กก.

มะนาวเทียม 4 ขวด+มะนาวสดประมาณ 20 ผล

น้ำตาลปี๊บ 2 กก.

เกลือป่น 1 ถ้วยตวง

กระเทียม1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

บดหรือปั่นพริกขี้หนูและกระเทียมให้ละเอียด แล้วเทใส่ลงในหม้อ

จากนั้นนำน้ำตาลปี๊บ มะนาวเทียม เกลือป่น เทลงผสมคนให้ส่วนผสมเข้ากันหรือจนน้ำตาลปี๊บละลาย

แล้วจึงบีบมะนาวสด 20 ผลลงไป พร้อมกับใส่เปลือกมะนาวที่บีบแล้วลงไปด้วย คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ

จะได้ “น้ำจิ้มเผ็ด” ส่วนผสมที่ใช้ทำน้ำจิ้มนี้ ให้ค่อย ๆ เติม หมั่นชิมรส หากขาดรสใดก็ค่อย ๆ เติมส่วนที่ขาด ปรุงแต่งรสช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ทำบ่อย ๆ การกะส่วนผสมก็จะนิ่งเอง

“น้ำจิ้มหวาน”

ใช้น้ำตาลปี๊บ 1 กก.

มะขามเปียกคั้นเอาแต่น้ำ 1 ถ้วย

กระเทียมดองใส่ทั้งน้ำและหัวประมาณ 300-400 กรัม

วิธีทำ

นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกันแล้วตั้งไฟคนให้ละลายเข้ากัน ชิมดูให้ออกรสหวานนำ ก็จะเป็นน้ำจิ้มหวาน หรือน้ำจิ้มสำหรับเด็ก


ที่มา ถอดรหัสอาชีพ, Openrice
และ http://www.hairstyles-trend.com/?p=1183