ผักไชยา ผักพื้นบ้านมากคุณค่ามากและสรรพคุณ ที่หลายคนๆไม่เคยรู้

ผักไชยา ผักพื้นบ้านมากคุณค่ามากและสรรพคุณ ที่หลายคนๆไม่เคยรู้

“ต้นไชยา” หรือบางคนเรียก ต้นขั้ว, ต้นมะละกอกินใบ, ต้นคะน้าเม็กซิกัน ใบมันออกสีเขียวเข้ม ๆ เหมือนกันใบมะละกอ แต่เล็กกว่าแถมพอเด็ดใบออกมาก็มียางสีขาว ๆ หยดติ๋งๆเหมือนยางมะละกออีกหมูยังทำใจกินไม่ได้ในช่วงแรกแต่ พอลองเอามาผัดกินพอได้ชิม ทีนี้ติดใจเดี๋ยวผัดเดี๋ยวต้มแทบทุกวัน จนต้นไชยาผลิตใบให้ไม่ทันเลย

สำหรับรสชาติของผักนั้นจะคล้ายคลึงกันมากนะคะ, ไม่เหม็นเขียว, ไม่มีรสขมน้อยแถมอร่อยหวานหวาน ไม่เชื่อต้องลองแล้วจะติดใจ

การขยายพันธุ์ต้นไม้ต้นไชยาไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้ความหนาแน่นของเส้นผ่าศูนย์กลางของผิว “ปลูกครั้งเดียวกินไปตลอดชีวิต”

ตามธรรมชาติไม่ค่อยมีแมลงกับวิวัฒนาการทางเกษตรเป็นอย่างมาก ขอแนะนำให้รีบหาต้นไชยามาปลูกซะ!

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผักไชยา:

ผักไชยา, คะน้าเม็กซิโก, ผักโขมต้นหรือชายาเป็นไม้พุ่มหลายปีชนิดหนึ่งอยู่ในวงกลมเดียวกับยางพาราและสบู่ดำที่เชื่อว่ามีเชื้อโรคในคาบสมุทร ได้รับความสูงถึง 6 เมตรใบกว้างมีแกรกตั้งแต่ 3 แฉกขึ้นไปผักไชยาเป็นผักกินยอดนิยมชนิดหนึ่งในตำรับอาหารมาตรฐานกัมพูชา เตมาลาและอเมริกากลาง

ตามที่สถาบันส่งเสริมการขาย “ผักไชยา” ว่า

– ช่วยในการหมุนเวียนโลหิต

– ช่วยย่อย

– ช่วยในการมองเห็นสายตาดีขึ้น

– ช่วยบรรเทาริดสีดวงทวาร

– ช่วยลดคอเรสเตอรอล

– ช่วยลดน้ำหนัก

– การป้องกันการไอ

– เพิ่มแคลเซียมให้กระดูก

– ลดอาการโรคและเชื้อโรคในปอด

– ป้องกันโลหิตจางโดยเพิ่มธาตุเหล็กให้กับเลือด

– เพิ่มความสามารถและการทำงานของสมอง

– โรคไขข้ออักเสบและโรคเบาหวาน

สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบแล้วให้คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม ไม่เป็นสิริมงคลเลยทีเดียว สำหรับป้า … ชอบทำผัดไชยาน้ำมันหอยกินกับข้าวสวยร้อนๆ, ผักไชยาผัดน้ำมันจิ้มน้ำพริกกะปิ – ปลาทูผัดบางวัน … ลวกใบไชยากับปลาทองปลาร้า – ปลาดุกย่าง, สมุนไพร . ใบไชยาชุบแป้งข้าวเกรียบหมูหมู – ผักไชย ข้าวผัดเผ็ด , ผัดกระเพรา, แกงส้มก็อร่อยทุกอย่าง

ผักไชยาเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน, วิตามิน, แคลเซียม, โพแทสเซียมและเหล็กและเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ของสารที่อนุมูลอิสระที่จริงและผักใบเขียวชนิดอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับการปลูกบน ดินถึง 2-3 เท่าอีกด้วยพร้อมกับผักผลไม้ที่มีส่วนผสมของสารอาหารที่จำเป็นต่อการย่อยสลายของกระเพาะอาหาร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก baansunkoo