รักแบบคน “ฉลาด” เขารักกัน รักแบบไหนให้มีแต่ความสุข
สงสัยกันบ้างไหมคะ ว่าเดี๋ยวนี้ทำไมคนเรามักตัดสินปัญหาความรักด้วยความ รุ นแ ร งความรักเป็นความสุขหรือความทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือมองความรักอย่ างไร
เพื่อไม่ให้ความรักเป็นความทุกข์กลับมาทำลายตัวเราเองและคนรอบข้างความรัก
ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองและคนที่เรารักมีความสุขด้วยส่วนใหญ่ที่คนเรามีปัญหา อาจเพราะเรารักเขา
แต่เขาไม่รักเราจึงไปทำให้เขาหรือตัวเราเป็นทุกข์ ซึ่งทางจิตวิทย ามองว่าความรักที่ดีต่อสุขภาพ หรือถูกสุขภาพจิตนั้นควรเริ่มจากการรู้จักรักตัวเองเสียก่อน
“หลายคนมักจะมองว่า การรักตัวเอง คือ การเห็นแก่ตัว หลงตัวเองไม่สนใจคนอื่น
แท้จริงแล้วหากรู้จักรักตัวเองอย่ างพอเพียงจะเห็นถึงคุณค่าของตัวเอง ความรู้สึกโหยหาความรักจากผู้อื่นก็จะมีอิทธิพลน้อยลง”
อีกประเด็นที่มักพบเห็นอยู่บ่อยครั้งคือ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความรักต้องเกาะติดอยู่ไม่ได้ถ้าขา ด อีกคน เป็นเหมือนความรักสไตล์คลาสสิกทั้งหลายเช่น
โรมิโอ&จูเลียต หรือสะพานรักสารสิน ที่หากไม่มีเธอ ฉันต้องขา ด ใจถือว่าเป็นความรักที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
เพราะหากอีกฝ่ายไม่ยั่งยืนหรือแม้ไม่คิดจะทอดทิ้งแต่ต้องจากไปด้วยกาลเวลา แล้วจะทำอย่ างไรนอกจากนี้หากมองในแง่ที่ว่า
คนเราเมื่อรักกันได้ก็ย่อมเบื่อหน่ายจืดจางได้เช่นกัน หรือกระทั่งย ามที่อีกฝ่ายจำเป็นต้องไปทำงานไปทำภารกิจส่วนตัวจนต้องห่างกันสักระยะ
ถ้าอีกคนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้เพราะหวังให้อีกคนเป็นผู้ให้ความสุขทั้งหมด ย่อมจะต้องทุกข์เป็นประจำ
ส่วนคนที่ถูกพึ่งพิงเกาะติดก็จะรู้สึกอึดอัด เบื่อหน่ายหากต่างฝ่ายรู้จักสร้างความสุขด้วยตัวเองได้ด้วยเช่น
ทำงานอดิเรก คบเพื่อน ก็จะช่วยให้สัมพันธภาพดีขึ้นแต่ก่อนที่ทุกข์อันเกิดจากความรักจะรุมเร้า
วันนี้เรามี 9 วิธี “รัก” อย่ างไร ไม่เป็นทุกข์ มาฝากค่ะ
1. ควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา
2. ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเราเช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา
แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่าอย่ างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข
3. ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชนซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้แต่ถ้าเรายิ่งคาดหวังจากอีกฝ่ายน้อย โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น
4. ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่นความคิดไม่ตรงกันนั้น
ถือเป็นเรื่องธรรมชาติหากฝ่ายหนึ่งไม่พย าย ามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกันและพย าย ามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน
ปัญหาก็จะไม่เกิดหากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขาและมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น
5. รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนย าวเพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก
เพลงโปรด ฟังซ้ำอาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว
อาจจืดจางลงแต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกราร้างห่าง บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้
6. ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่ างเดียวจะต้องมองถึงความต้องการของเขาด้วย
จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตสาห์หวังดียอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า
7. ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราเพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน
มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่องจนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป
8. พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำบางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน
เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชมจึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดีหรืออย ากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงเอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน
9. การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายคงไม่รู้เพราะเขาไม่มีตาทิพย์แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน
อย่ างไรคงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ
ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ และถ้าจะรักให้ดีต่อสุขภาพจิตทุกคนควรคิดให้ความรักเป็นดอกไม้สวยงาม
เป็นของหวานสำหรับชีวิตอย่ ายึดติดว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่ าง อย่ าคิดว่า “รัก” เป็นข้าวปลาอาหารหรืออากาศที่ขาดไม่ได้
“อย ากให้คนที่มีทุกข์เพราะรักคิดด้วยว่า ก่อนที่จะมาเจอคนรักยังมีพ่อแม่พี่น้องเพื่อนพ้อง
และคนอื่นอีกมากมายที่เรารักและรักเราอย่ าให้คนเพียงคนเดียวเป็นทุกสิ่งทุกอย่ าง การจะรักใคร ควรรักอย่ างมีสติ ไม่ทุ่มเทจนหมดตัว และควรเผื่อใจให้กับตัวเอง
ครอบครัว และเพื่อน เพราะหากเกิดพลาดพลั้งครอบครัวและคนใกล้ชิดมีส่วนสำคัญที่จะเยียวย าหรือเตือนสติไม่ให้ผู้ผิดหวังในความรักกระทำเรื่องที่จะเสียใจในอนาคตได้
“เท่านี้คุณก็มีความรักที่ดีต่อสุขภาพได้แล้วค่ะ”
ที่มา : pantip
รักแบบคน “ฉลาด” เขารักกัน รักแบบไหนให้มีแต่ความสุข
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
พฤษภาคม 17, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: