9 สิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง หยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอ กเบี้ ยเงินฝาก 0เปอร์เซนต์ ซึ่งดูเหมือนว่าในบ้านเราก็ใกล้จะถึงจุดนั้นแล้วเช่นกัน เราทุกคนควรจะใช้ชีวิต ใช้จ่ายเงินกันอย่ างไร หรือต้องปรับตัว ต้องเจอ กับอะไรบ้าง มาดูกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
1 เงินเฟ้อแฝ ง
นอ กจากดอ กเบี้ ยเงินฝากในบัญชีจะไ ม่มีแล้ว ค่าครองชีพก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี หากลองมองย้อนกลับไปในอ ดีต จะเห็นว่าค่าครองชีพนั้น สูงขึ้นรื่อยๆ เงิน 40 บาท ที่เมื่อก่อนซื้ อก๋วยเตี๋ยวได้ 2 ชาม เดี๋ยวนี้ก็ซื้ อได้แค่ชามเดียว เรามีเงินเท่าเดิมในขณะที่ข้าวของทุกอย่ างแพงขึ้น ซื้ อของได้น้อยลง นี่แหละที่เรียกว่า เงินเฟ้อแฝงก็คือ ค่าครองชีพ
2 ครอบครัวมีปัญหามากขึ้น
สมัยก่อนผู้ชายจะเป็นคนออ กไปทำงาน หาเงินเพื่อมาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงจะอยู่บ้านคอยดูแลงานบ้าน และเลี้ยงลู ก ทำให้มีเวลาอยู่กับลู กได้ตลอ ด แต่พอมายุคนี้ ทั้งพ่อและแม่ก็ออ กไปทำงานนอ กบ้าน และยิ่งยุคที่เงินห า ย ากยิ่งต้องทำงาน มากขึ้นไปอีก เพราะหาเงิน มาก็ไ ม่พอค่าใช้จ่าย ลูกก็ไ ม่มีใคร
อยู่ด้วย และยิ่งมีการทำโอทีกลับบ้านดึกดื่น ยิ่งไ ม่มีเวลาเจอหน้ากันเลยในแต่ละวัน และเมื่อพ่อแม่ทำแต่งาน ไ ม่มีเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้ลู กเริ่มมีปัญหาและเป็นปัญหาสังคมต่อไปอีก
3 คอรัปชั่น และ การโ ก งจะมากขึ้น
แน่นอนว่าเงินยิ่งห า ย าก การมีโอกาส หรือหนทาง ก็ต้องคว้าเอาไว้ และมั นทำให้คนข า ดจิตสำนึกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ยอมทำทุกอย่ างเพื่อเงิน ไ ม่สนใ จว่ามันเป็นสิ่งที่ผิ ดหรือถูก
4 หลังจากยุคดอ กเ บี้ย 0เปอร์เซนต์ ทุกอย่ างจะแ ย่ลงไปอีก
นั่นเป็นเพราะว่าเงินจะล้นระบบ แต่ไ ม่ใช่เงิน มีมากสำหรับทุกคนหรอ กนะ เมื่อเงินล้นระบบ จะล้นไปอยู่ที่มือคนร ว ย ซึ่งคนร ว ยมีจำนวนที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับคนจน จึงเกิดการใช้จ่ายที่น้อยต ามไปด้วย และเมื่อใช้จ่ายน้อย ก็จะส่งผลจากเล็กๆ
เช่น พ่อค้าแม่ค้าไ ม่มีคนซื้ อ ของก็จะข า ยไ ม่ได้ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ไ ม่มีคนเดิน คนส่วน มากไ ม่มีเงินที่จะเ อาไปใช้จ่ายให้เงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ และพอเศรษฐกิจไ ม่ดี ทั้งบริษัททั้งโรงงาน ก็ต้องปิดตัวลง พนักงานและคนงาน ก็ต้อง ต ก ง า น กล า ยเป็นล้มไปหมดทั้งระบบ
5 ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น
หากเงินฝากไ ม่มีดอ กเ บี้ย ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน คนร ว ยที่มีอยู่เพียงไ ม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็จะยิ่งร ว ยขึ้น ในขณะที่คน จ น คนที่หาเช้ากินค่ำไ ม่มีเงินเหลือเก็บ และยิ่งการวางแผนทางการเงินไ ม่มี หรือลงทุนไ ม่เป็น ไ ม่มีความรู้ในการลงทุนให้เงินงอ กเลยได้เลย ก็ต้องทำงานหนักแบบนี้ไปตลอ ดชีวิต
6 เงินจะอยู่เหนือคน มากยิ่งขึ้น
เมื่อเงินห า ย ากมากขึ้น ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้น และคนก็จะพย าย ามทำทุกอย่ างเพื่อให้ได้มัน มา โดยที่จะไ ม่สนว่าต้องทำให้ใครรู้สึกแ ย่ เรียกว่าไ ม่แคร์กับผลที่ต ามมาเลยก็ว่าได้
7 ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน
ปกติแล้วในวัยสูงอายุ คนวัยนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะวางแผนก่อนวัยเกษียณ เพื่อให้มีเงินเก็บเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณได้มากเพียงพอที่จะสามารถฝากธนาคาร และหวังเก็บดอ กเบี้ ยกินได้บ้าง แต่ถ้าหากเงินฝากไ ม่มีดอ กเ บี้ย ก็จะทำให้เงินก้อนค่อยๆถูกใช้ไปจนหมด และก็กล า ยเป็นว่า ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง
8 เงินจะห า ย ากมากขึ้น
ลองดูทุกวันนี้สิ ว่าคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลงขนาดไหน นี่ยังไม่รวมกับวิกฤ ตโ ควิ ด ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ จนส่งผลกระทบในวงกว้าง และหากในอนาคตที่ธนาคารทั่วโลกจะให้ดอ กเบี้ ยเงินฝาก 0เปอร์เซนต์ เท่ากับคนที่ฝากเงินในธนาคารจะไ ม่ได้ดอ กเบี้ ยเลย คุณรู้ไหมว่า เงินที่สามารถงอ กเงยจากระบบดอ
กเบี้ ยนั้น มีถึงแสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว และถ้าเงินส่วนนี้ห า ยไปกล า ยเป็น 0 คิดภาพดูสิว่าเงินห า ยไปจากเศรษฐกิจ ชีวิตประจำวันขนาดไหน เมื่อเงินห า ยไป กำลังการซื้ อก็ลดลงด้วยเช่นกัน
9 คำว่า อิสรภาพทางการเงิน จะเอื้อมถึงได้ย ากขึ้น
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบพูดเรื่อง อิสรภาพทางการเงินกัน มากขึ้น หรือที่ชอบเรียกกันว่า Passive Income เป็นการที่มีรายได้เข้ามามากกว่ารายจ่าย แบบที่เราไ ม่
ต้องทำงาน เป็นการสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ตัวเอง ซึ่งคนสมัยก่อนจะนิยมฝากเงินเพื่อหวังจะเอาดอ กเบี้ ยได้บ้าง แต่ถ้ามองดูยุคปัจจุบัน เราคงทำแบบนั้นไ ม่ได้แล้ว และยิ่งลงทุนผิ ดที่ กล า ยเป็นว่าเราจะต้องทำงานไปตลอ ดชีวิต และไ ม่มีคำว่า อิสรภาพทางการเงิน ให้เราได้เข้าใกล้ได้เลย
ที่มา kiddpan
9 สิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง หยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
สิงหาคม 02, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: