ลองมาอ่านดูแล้วคุณจะรู้สึกขอบคุณตัวเอง อยู่แบบสุขสบายแบบนี้นานๆนะตัวเรา
หากวันนี้คุณรู้สึกไม่สบายใจ ลองออกไปดูโลกภายนอกบ้าง อย่าจมปลัก
อยู่แต่ที่เดิมๆแล้วคุณจะได้รู้ว่าโลกกว้างใบนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากมาย
มีโอกาสอีกเยอะแยะและเวลาของชีวิตคนเรามันสั้นนิดเดียวอยู่ที่นี่ไม่เป็นสุข
ก็เปลี่ยนที่ เปลี่ยนที่แล้วไม่เป็นสุขก็จงเปลี่ยนตัวเอง หากคนรอบข้างทำให้คุณ
ไม่เป็นสุข ก็อย่าปล่อยใจให้ทุกข์ และอย่าทำให้คนที่ไม่รักคุณเพิ่มความทุกข์
ให้แก่คุณใครไม่รักคุณ ก็ปล่อยเขาไปจากชีวิต แล้วลองหันมารักตัวเองดูนะ
อย่าทำตัวอ่อนไหวเกินไปได้ยินได้เจอเรื่องราวอะไร ให้หยุดตรองดูก่อนจะ
ตอบกลับไป บางเรื่องคนพูดไม่ทันได้คิด แต่คนฟังดันคิดเก่งคนพูดไม่ทัน
ได้จำคนฟังจำไปสามชาติ ต่อให้คนรอบข้างจะปลอบใจหรือให้กำลังใจ
คุณมากเพียงใด คนอื่นก็ไม่อาจเข้าถึงความรู้สึกจริงๆ ของคุณได้ฉะนั้น
เมื่อใดที่ท้อแท้สิ้นหวังเมื่อใดที่หดหู่ไม่มีกำลังใจ คนที่รักษาคุณได้ดีที่สุด
ก็คือตัวคุณเอง เมื่อใดที่เหนื่อยก็ให้กอดตัวเองเมื่อใดที่ร้องไห้ก็ปลอบตัวเอง
ไม่มีใครคอยกอด คอยปลอบคุณได้ตลอดไปฉะนั้น จงฝึกรักตัวเองนะ
หากถูกคนรอบข้างเข้าใจผิด จงอธิบายแค่ครั้งเดียวก็พอเพราะหากเขา
ไม่คิดจะเชื่อคุณ อธิบายสักกี่ครั้งเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดี ส่วนคนที่เชื่อคุณ
ไม่ต้องอธิบายเขาก็เชื่อต่อให้ดีที่สุดวันหนึ่งก็ต้องสูญเสีย ต่อให้คิดถึงที่สุด
วันหนึ่งก็ต้องลืมเลือน ต่อให้รักที่สุด วันหนึ่งก็ต้องพรากจากหากวันหนึ่ง
ต้องสูญเสียสิ่งใดไป จงรู้ไว้ว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนต้องเจอ
10 สัญญาณ ที่บอกว่าคุณรักตัวเองมากขึ้น
1. คุณไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
คุณไม่สนใจว่าใครจะเป็นยังไง และไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองคุณแบบไหน
เพราะการคิดมากไปกับเรื่องแบบนี้ จะทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยมีความสุข
2. คุณไม่สนใจคำชมจากปากคนอื่น
เพราะคุณรู้จักชื่นชมตัวเองอยู่แล้ว คุณรู้ตัวดีว่าคุณเป็นคนยังไง
ดีแค่ไหนมีข้อเสียอะไรที่ควรปรับปรุง และรู้จักให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ
3. คุณจะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อให้คนอื่นชอบ
คุณชอบที่จะเป็นตัวของตัวเอง มากกว่าการพยายามเป็นคน
ที่ใช่เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยมาก
4. คุณรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
คุณชอบใส่เสื้อผ้าหลวมๆ สบายๆ แต่ดูดี มากกว่าใส่เสื้อผ้ารัดๆ โชว์สัดส่วนเพราะ
คุณแคร์ความสบายของตัวเอง มากกว่าแคร์สายตาของคนอื่น
5. คุณไม่รู้สึกอิจฉาคนอื่นอีกแล้ว
เพราะคุณรู้สึกภูมิใจในตัวเอง พอใจในวิถีชีวิตของตัวเองและตระ
หนักรู้ว่าการใช้ชีวิตให้มีค่า มันดีกว่าไปนั่งอิจฉาคนอื่นเป็นไหนๆ
6. คุณไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยเปล่า
คุณเลือกที่จะใช้ชีวิตสบายๆ มากกว่ากดดันตัวเองจนเกินไป ทุกสิ่งที่คุณตัด
สินใจล้วนแล้วแต่ถูกคิดทบทวนมาอย่างดี ถึงคุณจะเดินช้าลง แต่ก็ดีกว่าเดินถอยหลัง
7. คุณคัดเลือกคนที่จะเข้ามาในชีวิต
เพราะคุณอาจจะเคยเจอเพื่อนแย่ๆ คนรู้จักแย่ๆ หรือคนรักแย่ๆ มาก่อน
เมื่อคุณรักตัวเองมากขึ้นคุณจะเริ่มมองหาคนที่มีคุณภาพ และคัดเลือก
เข้ามาในชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม
8. คุณเริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น
บางคนก็เริ่มหัดออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ บางคนก็เริ่มใส่ใจอาหารที่รับ
ประทานอย่างจริงจังบางคนก็แบ่งเวลาให้การพักผ่อนมากขึ้นบางคนก็
พยายามดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย ฯลฯ คุณต่างก็เริ่มหาวิธีดูแลตัวเอง
ในแบบที่คุณชื่นชอบ ซึ่งนั่นต่างก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ
9. คุณรู้แล้วว่าตัวเองอยากใช้ชีวิตแบบไหน
คุณมีความใฝ่ฝันเป็นของตัวเอง มีแผนการของตัวเองและมีเส้นทาง
ที่คุณเลือกเอง แม้ว่ามันจะยาก แต่คุณก็มุ่งมั่นที่จะก้าวไปให้ถึงจุดหมาย
10. คุณมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
คุณเข้าใจแล้วว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นที่ต้องการ “เมื่ออยู่ถูกที่ถูกทาง”ตัวอย่างเช่น
หากคุณเป็นต้นหญ้าในกระถาง คุณก็เป็นเพียงวัชพืชที่ต้องถอนทิ้งแต่หากคุณ
เป็นต้นหญ้าท่ามกลางทุ่งกว้าง คุณกลับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่งดงาม
ที่มา...meokayna.com
ลองมาอ่านดูแล้วคุณจะรู้สึกขอบคุณตัวเอง อยู่แบบสุขสบายแบบนี้นานๆนะตัวเรา
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
สิงหาคม 11, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: