บุคคลในกะลา มักแปรเปลี่ยนเจตนาของผู้อื่น ให้ไปในทางที่ผิดเสมอ




บุคคลในกะลา มักแปรเปลี่ยนเจตนาของผู้อื่น ให้ไปในทางที่ผิดเสมอ


เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่อยากให้ทุกคนได้อ่าน สำหรับเราทุกคน ล้วนแล้วมีความคิดที่แตกต่าง ต่างคน ก็ต่างมุมมอง ซึ่งมีผลต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก

ข้อคิด เ ตื อ น ใจนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้คุณไม่ลืมว่า

การดำเนินชีวิตด้วยจิตใจที่กว้างและมีความสดใสอยู่เสมอ

ใจคุณกว้างเท่าใด .. โลกก็กว้างตามคุณเท่านั้น

คนที่ใจคับแคบ ..

มักแปรเจตนาคำพูดของคนอื่น

ไปในทางที่ ผิ ด อยู่เสมอ

คนที่ใจกว้างใหญ่ ..

มักแปรเจตนาคำพูดของคนอื่น

ไปในทางที่ดีอยู่เสมอ

สำคัญอยู่ที่เราเลือกเป็นใคร

ใจ แคบหรือใจกว้าง

คุณเห็นคนรอบข้างเป็นเหมือน ผักหญ้า

คุณก็ถูก ผักหญ้าปกคลุม

คุณก็คือกระถางหญ้า

คุณเห็นคนรอบข้างเป็นเพชรนิลจินดา

คุณถูกของล้ำค่าปกคลุม

คุณก็คือพานใส่เพชรนิลจินดา

ชีวิตคนเรา ต้องรู้จักมองเห็นข้อดีข้อเด่นของคนอื่น

ชื่นชมในข้อดี ลืมข้อ ด้อยของเขา

ใจคุณกว้างเท่าใด .. โลกก็กว้างตามคุณเท่านั้น

ถ้าเรารู้จักเหตุ ก็สร้างเหตุขึ้น

ผลมันก็เกิดตามมาเอง

แต่คนเราไม่ทำอย่างนั้น…

ส่วนมากต้องการแต่ดีๆ แต่ไม่สร้างความดี

มันจะเกิดมาจากไหนได้

มันก็ย่อมพบแต่สิ่งที่ไม่ดีนั่นแหละ

เมื่อได้สิ่งไม่ดี…ใจมันก็เกิดเป็นทุกข์เป็นร้อนขึ้นมาทันที

ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขีข้าของเงิน

หมายความว่า…

เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่

รถยนต์ใช้อะไรก็หัดพอใจกับมัน

นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน

เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน

การที่คนเราจะเลิกเป็นขีข้าเงินได้

ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน

เมื่อรู้จักพอแล้ว

ก็ไม่ต้องหาเงินมาก

เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก

“ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรมากกว่าการหาเงิน”

มุมมองที่เรามีต่อผู้อื่น

ตลอดจนวิธีคิดที่เราเลือกใช้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิต

คือสิ่งที่กำหนดขนาดความสุขของชีวิตเรา

ลองฝึกตัวเองให้เป็นคนมองโลกในมุมบวก

ฝึกใจให้เปลี่ยนความคิดและลองทำตาม 5 แนวคิดนี้

รับประกันได้เลยว่าทำแล้วชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ

1. เลือกมองอะไรในมุมกว้าง มองเรื่องต่างๆ แบบภาพรวม

อย่าเลือกใส่ใจแค่จุดด่างเล็กๆ จนสร้างปัญหา

เพราะบางทีจุดด่างมันเล็กนิดเดียวแต่เรากลับไป

เลือกให้ค่าให้ความสนใจหงุดหงิดกับตำหนิเล็กๆ

จนทำให้รอยดำที่แทบมองไม่เห็นขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเกินจริง

ซึ่งเจ้ารอยดำนี้ก็เปรียบเหมือนเรื่องไม่ดีที่เราต้องหัดปล่อยผ่าน

หยุดให้ความสนใจกับสิ่งเล็กน้อยที่สร้างความหงุดหงิด

เลือกมองไปที่ภาพรวมให้เห็นในสิ่งที่จำเป็นกว่า

หรือโอกาสที่จะขจัดปัญหาเรื่อง แ ย่ ๆ ให้มันหมดไป

2. ปล่อยวางได้ก่อนแล้วใจจะเป็นสุข แค่ปล่อยก็เบา

เรื่องจริงที่เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ

เพราะถือไว้มากก็ต้องหนักกว่าปล่อยวาง

ฉะนั้นเมื่อล้มเหลวหรือผิดพลาดต้องรีบลุกยืนใหม่ให้เร็ว

เริ่มใหม่ให้ไว โอกาสมีอยู่เสมออย่ามัวเสียเวลานานไป

กับการนั่งเสียดายบ่นถึงเรื่องเก่าที่ผ่านไปแล้ว

เพราะไม่สร้างประโยชน์หรือคุณค่าอะไรให้กับชีวิต

อยู่กับปัจจุบันปล่อยวางแล้วเริ่มต้นใหม่ให้เร็ว

คุณก็จะหลุดพ้นและมีความสุขได้ไวขึ้นเท่านั้น

3. ชีวิตมันสั้นอยากทำอะไรต้องรีบทำ อย่ายึกยักหาข้ออ้างไม่ลงมือ

ทำในสิ่งที่เรารักและมีความสุข รีบลงมือทำให้ต่างเพื่อให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลง

อย่างถ้าเบื่องานที่ทำอยากมีอิสระในการทำงาน

ก็ต้องรู้จักวางแผนออมเงินเตรียมพร้อมไว้สำหรับการลงทุน

มองหาช่องทางในการฝึกฝนเรียนรู้เพื่อเพิ่มหรือพัฒนาทักษะใหม่ๆ

ให้ตัวเองอยู่เสมอ เมื่อคิดเปลี่ยนเริ่มต้นลงมือทำ

แล้วเราก็จะมองเห็นว่ามีโอกาสอยู่มากมาย หนทางใหม่ๆ

จะเปิดออกให้คุณพบเจอ และเมื่อถึงจังหวะที่ใช่

คุณก็จะได้เลือกทำตามแบบที่อยากทำ

หลุดพ้นจากสิ่งจำเจที่ยิ่งทำก็ยิ่งลดความสุขของตัวเองลง

4. กล้าปฎิเสธหัดเกรงใจคนให้น้อยลง โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ควรเกรงใจ

อย่าไปตกปากรับคำ “ได้ครับ ได้ค่ะ” ช่วยเหลือทุกคนที่ร้องขอ

เพราะถ้ารับปากแล้วทำไม่ได้จะยิ่ง แ ย่ หนักเพิ่มความเครียดสะสมให้ตัวเองโดยใช่เหตุ

พึงระลึกว่าเราไม่ใช่ยอดมนุษย์ไม่จำเป็นต้องดูแลเทคแคร์ทุกคนรอบข้าง

โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยดีไม่เคยเห็นค่าในตัวเรา

เลือกแคร์ในคนที่เค้าแคร์และรักคุณ

อย่าอดทนเป็นตัวเลือกให้ใคร ทำตัวเองให้มีค่า..

เลือกเป็นผู้เลือกที่ปากตรงกับใจ รู้จัก รู้ใจ และเข้าใจในตัวเอง

5. มองโลกในมุมบวกงดคิดแบบติดลบ ไม่ว่าจะพบเจอกับสถานการณ์รูปแบบไหน

ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะฝึกฝนตัวเองให้เลือกคิด

เลือกแสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยมุมมองความคิดบวก

ปฎิเสธการคิดลบ จะส่งผลดีทำให้ความคิดความรู้สึกของเราเปิดกว้าง

มองเห็นทางออกเพื่อแก้ปัญหารับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

ลดความตึงเครียดในการใช้ชีวิตได้มากกว่าคนที่เลือกคิดแบบติดลบ

ที่มักปล่อยให้อคติมาปิดกลั้นจนมองไม่เห็นทางเลือก

ทางออกและโอกาสในชีวิต


ที่มา...https://www.khaosocial.net/p/35620
บุคคลในกะลา มักแปรเปลี่ยนเจตนาของผู้อื่น ให้ไปในทางที่ผิดเสมอ บุคคลในกะลา มักแปรเปลี่ยนเจตนาของผู้อื่น ให้ไปในทางที่ผิดเสมอ Reviewed by Dusita Srikhamwong on เมษายน 27, 2562 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.