ประโยชน์ของผักกระเฉด กินช่วยบำรุงสายตา เป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูกควรกินบ่อยๆ




ประโยชน์ของผักกระเฉด กินช่วยบำรุงสายตา เป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูกควรกินบ่อยๆ

ผักกระเฉด ชื่อสามัญว่า Water Minosa ชื่อวิทยาศาสตร์ Neptunia oleracea Lour ชื่อต่างๆ ผักฉีด, ผักรู้นอน, ผักหละหนอง โดยผักกระเฉดมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย จัดเป็นไม้ล้มลุกและเป็นไม้น้ำ ที่มีลำต้นลอยอยู่ผิวน้ำ ปล้องแก่จะสีขาวคล้ายๆฟองน้ำหุ้มอยู่ ตรงส่วนนี้เรียกว่า นมผักกระเฉด

ส่วนขอบใบจะมีสีม่วง และใบจะมีรูปร่างคล้ายขนนก ส่วนดอกนั้นจะออกเป็นช่อสีเหลือง 1 ดอก ประกอบไปด้วย 5 แฉก และมีรากออกตามข้อเป็นกระจุกๆ ผลที่ออกนั้นจะเป็นฝักแบนภายในจะมีเมล็ดประมาณ 5-10 เมล็ด ถ้าหากนำยอดผักกระเฉดไปปักไว้ใต้น้ำ จะสามารถทำเป็นผักกระเฉดชะลูกน้ำหรือผักกระเฉดไร้นมได้

ฤดูกาลและแหล่งปลูก ผักกระเฉดสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีและสามาถพบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย


ผักกระเฉดทำอะไรกินได้บ้าง จริง ๆ แล้วผักกะเฉดนั้นสามารถนำมาทำอาหารได้หลกหลายมากมาย เช่น

1. ยอดอ่อน ใบและลำต้น สามารถนำมากินสดๆได้ เพราะส่วนของลำต้นจะมีความกรอบ

2. หรือจะนำไปต้มหรือลวก แล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริกหรือขนมจีนก็ได้

3. แกงส้มผักกระเฉด

4. นำมาลวกใส่กับยำวุ้นเส้น, ยำเล็บมือนาง และยำได้หลากหลายชนิด

5. ผักกระเฉดนำมาผัดแทนผักบุ้งก็ได้ เป็นเมนู ผักกระเฉดผัดไฟแดง

6. แกงส้มผักกระเฉด


สรรพคุณประโยชน์ของผักกระเฉดออกเป็น 10 ข้อ ดังนี้

1. ผักกระเฉดถือว่าเป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูก รับประทานจะช่วยได้

2. เมื่อนำผักกระเฉดไปคั้นน้ำแล้วนำมารับประทานจะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดลงได้

3. ช่วยถอนพิษต่างๆได้ เช่น อาการเมา หรือพิษจากการเป็นไข้

4. ช่วยบำรุงสายตาได้ เพราะในผักกระเฉดประกอบไปด้วยวิตามินเอ

5. ผักกระเฉดสามารถช่วยแก้อาการเผ็ดได้

6. ถ้าหากนำผักกระเฉดมาบดแล้วผสมกับเหล้านำมาหยอดบริเวณที่มีอาการปวดฟันจะสามารถบรรเทาลงได้

7. ถ้าหากมีลมในกระเพาะมาก ผักกระเฉดก็สามารถรักษาได้

8. แก้อาการปวดศรีษะได้

9. กินเป็นประจำช่วยป้องกันโรคจากตับได้

10. ผักกระเฉดยังมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะอีกด้วย



ที่มา...vegetweb.com
ประโยชน์ของผักกระเฉด กินช่วยบำรุงสายตา เป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูกควรกินบ่อยๆ ประโยชน์ของผักกระเฉด กินช่วยบำรุงสายตา เป็นยาระบายอ่อนๆ คนท้องผูกควรกินบ่อยๆ Reviewed by Dusita Srikhamwong on มิถุนายน 28, 2562 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.