ประโยชน์ของรากบัว ไหลบัว มีฤทธิ์เย็นจัด รสหวาน ช่วยบำรุงโลหิต ไต และหัวใจ
รากบัว หรือ ไหลบัว (Lotus Root) เป็นลำต้นใต้ดินที่ได้มาจากต้นบัว (Nelumbo nucifera) มีสีขาวครีม มีกลิ่นคล้ายมะพร้าว และมีลักษณะเนื้อสัมผัสแข็ง คนในแถบเอเชียนิยมบริโภครากบัวเป็นผัก หรือนำไปทำขนมหวาน
รากบัว กินได้ทั้งดิบและสุก รากบัว สรรพคุณทางยา มหาศาลอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงโลหิต ไต และหัวใจ เป็นยาชูกำลัง สามารถเป็นได้ทั้งยาคุณภาพดีและมีคุณค่าทางอาหารและรสชาติอันโอชะ บ้านเราจึงไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักรากบัว เพราะน้ำต้มรากบัวมีขายกันอยู่ทั่วไปในท้องตลาด ในรากบัวยังพบสาร “ฟลาโวนอยด์” ที่มีคุณสมบัติเด่น ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
รากบัว มีฤทธิ์เย็นจัด รสหวาน รากบัวดิบมีสรรพคุณขับร้อน แก้อาการกระหายน้ำ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล รักษาอาการป่วยเพราะไข้ขึ้นเฉียบพลัน บำรุงสายตา ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย บำรุงสมอง เป็นยาชูกำลัง ส่วนรากบัวสุกมีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงม้าม รักษาม้าม หรือกระเพาะพร่อง แก้ท้องเดิน
แผนจีนเห็นว่า รากบัว สรรพคุณและประโยชน์ ในการคลายความหงุดหงิด เพิ่มสารน้ำ บำรุงเลือด ระงับประสาท น้ำรากบัวสดช่วยลดตับร้อน ชุ่มชื้นผิวหนัง เย็นเลือดและห้ามเลือดเป็นอย่างดี การดับร้อน ดับกระหาย คลายหงุดหงิด ผู้คนทั่วไปจึง นำรากบัวมาฝานบางๆ จะมองเห็นเป็นรูๆ เหมือนรังผึ้ง นำมาต้มน้ำ แล้วใสน้ำตาลกรวดน้อยๆ ดื่มแก้กระหายคลายร้อน ช่วยเพิ่มน้ำให้ความชุ่มชื้น ยังช่วยบำรุงเลือด ระงับประสาท
นอกจากกินเป็นยาแล้ว ยังนำรากบัวมาทำเป็นอาหารคาวหวานได้หลายชนิด ที่เห็นกันบ่อย ๆ คือรากบัวเชื่อมในเต้าทึง หรือเอารากบัวที่เหลือทิ้งจากน้ำต้มรากบัวมาคลุกน้ำตาลหรือแช่อิ่มกินเป็นขนม นำไปประกอบอาหารคาวอย่างใส่ในแกงจืด ต้มซี่โครงหมู หรือจะกินรากบัวอ่อน ๆ เป็นผักสดเคียงน้ำพริกก็ให้ความฉ่ำกรอบได้ไม่แพ้ผักชนิดอื่น แถมยังช่วยให้ขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก เพราะรากบัวมีเส้นใยอาหารสูงนั่นเอง
ประโยชน์จากการดื่มน้ำรากบัว
การดื่มน้ำรากบัวนั้นให้ประโยชน์มากมายแก่รางกาย เพราะในน้ำรากบัวนั้นมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายๆอย่างเช่น ฟลาโวนอยด์,โฟลีฟีนนอล ช่วยในการต่อต้านมะเร็ง , มีวิตามิน และเกลือแร่ น้ำรากบัวจึงถือเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง น้ำรากบัวที่ดี จะต้องมี สีออกสีเหลืองๆ จางๆ ใสๆ มีรสฝาด เผ็ด ร้อน ไม่มีกลิ่น
รากบัวสด ๆ มีฤทธิ์แก้ร้อนในได้ดีกว่าน้ำต้มรากบัว วิธีกินให้เอารากมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำกิน ครั้งละ 3-4 ช้อนแกง วันละ 3-4 ครั้ง หากมีเสมหะเหนียวติดคอดื่มน้ำรากบัวสดสูตร 2-3 อาการจะค่อยทุเลาลง เพราะรสชาติเฝื่อนของรากบัวมีสรรพคุณในการสลายพิษ ช่วยละลายเสมหะได้
การต้มรากบัวต้องใช้หม้อดินหรือหม้อทองเหลืองดีที่สุด เนื่องจากรากบัวมีกากใยมาก จึงมีส่วนช่วยการบีบตัวของกระเพาะ ลำไส้ มีผลช่วยลดความไม่สบายของระบบย่อย ชุ่มชื้นปอด ระงับประสาท ช่วยย่อย ช่วยขับถ่าย
ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการกินรากบัว
- กระเพาะม้ามอ่อนแอ ไม่ควรกินรากบัวสด
- สตรีช่วงมีประจำเดือน ร่างกายกลัวหนาวไม่ควรกินรากบัวสด
-ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรกินรากบัวสุกหรือผงรากบัว เพราะมีแป้งน้ำตาลมากกว่ารากบัวสด จะทำให้น้ำตาลในเลือดยิ่งขึ้นสูง
-ห้ามใช้หม้อเหล็กหรืออลูมิเนียมต้มรากบัว
นอกจากนี้แร่ธาตุยังช่วยในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำหน้าที่อย่างปกติ เช่น ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย เป็นต้น
การกินรากบัวดี ต่ออวัยวะภายใน มีฤทธิ์เย็นแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย บำรุงสมอง บำรุงสายตา บำรุงเลือด ไต และ หัวใจ รักษาอาการไข้ แก้อาการท้องผูก และ เป็นยาชูกำลัง รากบัว วัตถุดิบธรรมชาติแสนอร่อยเหมาะกับหน้าร้อนที่มาเยี่ยมเยือนในขณะนี้ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณห่วงใยอย่าลืมหามาทาน และ แบ่งปันเพื่อบำรุงและเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยสมุนไพรธรรมชาติรากบัว
ที่มา...https://www.thaiherbweb.com/
ประโยชน์ของรากบัว ไหลบัว มีฤทธิ์เย็นจัด รสหวาน ช่วยบำรุงโลหิต ไต และหัวใจ
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
กรกฎาคม 07, 2562
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: