กรรณิการ์ ดอกกลิ่นหอมอ่อนๆ มีรสขม แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ ปลูกในบ้านเป็นไม้มงคลศักดิ์สิทธิ์

กรรณิการ์ ดอกกลิ่นหอมอ่อนๆ มีรสขม แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ ปลูกในบ้านเป็นไม้มงคลศักดิ์สิทธิ์

กรรณิการ์ (Night blooming jasmine, Night jasmine, Coral jasmine) ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และจะมีกลิ่นหอมแรงในช่วงเย็น เป็นดอกไม้ที่บานตอนกลางคืน ออกดอกตลอดปี มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในตอนกลางของประเทศอินเดีย และสามารถพบได้ทั่ไปในแถบตอนเหนือของปากีสถานและเนปาลไปทางใต้ถึงตอนเหนือของอินเดียและตะวันออกเฉียงใต้ของไทย เชื่อกันว่าเป็นไม้มงคลที่บ้านใดปลูกไว้ จะนำความสุข ความเจริญมาให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน

ต้นกรรณิการ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Nyctanthes arbor-tristis Linn. จัดเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ มีเรือนยอดเป็นรูปทรงพีระมิดแคบ มีความสูงของต้นประมาณ 3-5 เมตร โดยจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน แต่สามารถออกดอกได้ตลอดปีหากมีฝน หรือได้รับการตัดแต่งและมีการให้น้ำอย่างเหมาะสม

สำหรับดอกกรรณิการ์นั้นจะออกดอกเป็นช่อ ออกตามซอกใบหรือง่ามใบ ไม่มีก้านดอก ดอกเป็นดอกย่อยสีขาวและมีกลิ่นหอม ดอกจะบานในช่วงเย็นและจะร่วงในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น โดยในดอกมีสาร Carotenoid nyctanthin ที่ให้สีเหลืองอมแสด ใช้ทำเป็นสีสำหรับย้อมผ้า ด้วยการใช้โคนกลีบดอกส่วนหลอดสีส้มแดงนำมาโขลกแบบหยาบ ๆ เติมน้ำ แล้วคั้นส่วนน้ำกรองจะได้น้ำที่มีสีเหลืองใส ใช้เป็นสีย้อมผ้าได้ และถ้าเติมน้ำมะนาวหรือสารส้มลงไปเล็กน้อยในขณะย้อม ก็จะทำให้สีคงทนยิ่งขึ้น และนอกจากจะใช้ย้อมสีผ้า สีจร สีผ้าไหมแล้ว ยังใช้ทำสีขนมได้อีกด้วย

ในประเทศอินเดียจะนับถือต้นกรรณิการ์ว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง (แต่ในประเทศอินเดีย ต้นกรรณิการ์จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 30 เมตร) จึงอาจถือได้ว่าต้นกรรณิการ์ก็จัดเป็นไม้มงคล

สรรพคุณของกรรณิการ์

รากมีรสขมฝาด ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ (ราก)

รากใช้เป็นยาแก้วาโยกำเริบเพื่ออากาศธาตุ (ราก)

ดอกช่วยบำรุงหัวใจ (ดอก)

รากใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (ราก)

ใช้เป็นยาแก้อาการอ่อนเพลีย (ราก)

ใช้เป็นยาแก้โลหิตตีขึ้น (ดอก)

ใบมีรสขม ช่วยทำให้เจริญอาหาร ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 1 กำมือ เติมน้ำคั้นลงไปแล้วคั้นเอาแต่น้ำ 1 ถ้วยแก้ว ใช้แบ่งรับประทาน 4 ครั้ง ถ้ากินมากจะมีฤทธิ์เป็นยาระบาย (ใบ)

ใบใช้เป็นยาแก้ตานขโมย (ใบ)

ช่วยบำรุงเส้นผม แก้เส้นผมหงอก ด้วยการใช้ใบนำไปแช่กับน้ำมันมะพร้าวประมาณ 1-2 คืน ก็จะได้น้ำมันที่มีสีเหลืองอ่อน ๆ สำหรับนำมาใช้ทาหมักผมก่อนนอน จะช่วยป้องกันไม่ให้ผมหงอกก่อนวัยได้ (ใบ)ส่วนข้อมูลจากหนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย ระบุว่าส่วนที่นำมาใช้เป็นยาแก้ผมหงอกคือส่วนของราก (ราก)

ช่วยบำรุงผิวหนังให้สดชื่น (ราก)

เปลือกมีรสขมเย็น ใช้เปลือกชั้นในนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการปวดศีรษะ ส่วนต้นก็มีสรรพคุณแก้ปวดศีรษะเช่นกัน (ต้น, เปลือก)

ดอกมีรสขม ช่วยแก้ลมวิงเวียน (ดอก)

ใช้เป็นยาแก้ลมและดี (ราก)

ต้นมีรสหวานเย็นฝาดใช้เป็นยาแก้ไข้ ส่วนใบและดอกก็มีสรรพคุณแก้ไข้เช่นกัน (ต้น, ใบ, ดอก)

ใบช่วยแก้ไข้เพื่อดีและแก้ไข้จับสั่นชนิดจับวันเว้นวัน (ใบ)

ดอกใช้เป็นยาแก้ไข้มิรู้สติ เป็นไข้บาดทะจิต แก้ไข้ผอมเหลือง (ดอก)

รากช่วยแก้อาการไอ (ราก)

ในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ใช้ดอกเป็นยาขับประจำเดือน (ดอก)

แพทย์ชนบทในสมัยก่อนจะใช้ต้นและรากกรรณิการ์ นำมาต้มหรือฝนรับประทานเป็นยาแก้อาการไอสำหรับสตรีหลังคลอดบุตรใหม่ ๆ (ต้น, ราก)

อ้างอิงข้อมูล https://medthai.com/