อย่าเสียเวลา ที่จะต้องไปอธิบาย ให้กับคนที่เข้าใจคุณผิด
ไม่มีความจำเป็นเลย ที่เราจะต้องไปเสียเวลาอธิบาย ให้คนที่เข้าใจคุณผิด
เพราะคุณในขี้ปากคนอื่น มันไม่ใช่ตัวตนของคุณจริงๆ
คนร้อยคน มองคุณไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น อย่าไปคิดมาก
ถ้าหากมีคนมาตัดสินคุณ ด้วยความที่เขาไม่ได้รู้จักคุณดีพอ
พูดไปก็เสียเวลาเปล่า เอาเวลาที่มีค่าของเรา ไปใช้กับคนที่มีค่าสำหรับเราดีกว่า
เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะพูดหรือไม่พูด ความจริงจะต้องปรากฎ ไม่ช้าก็เร็ว
ดั่งสุภาษิตที่ว่า ” น้ำลดต่อผุด “ เหมือนกับนิทานที่จะเล่าต่อไปนี้
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า…หญิงสาวคนหนึ่งได้ตั้งท้อง แต่หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าใครคือพ่อของลูก
ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะเค้นถามความจริง หญิงสาวก็ไม่ยอมปริปากบอกสักที
เมื่อพ่อแม่ถามย้ำๆเข้า ด้วยความรำคาญ หญิงสาวจึงบอกไปว่า เป็นลูกของพระรูปหนึ่งในวัด ที่อยู่แถวบ้าน
พ่อแม่รู้ดังนั้น จึงได้ไปหาพระ เล่าเรื่องราวให้ฟัง และต่อว่าพระรูปนี้แบบ เ สี ย ๆ ห า ย ๆ
พระก็ไม่ได้ว่า หรือปฎิเสธอะไร ตอบกลับมาเพียงว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”
ผ่านไปไม่กี่เดือน หญิงสาวได้คลอดลูกออกมา ครอบครัวของตนเอง ก็ไม่ได้อยากจะเลี้ยงและรับภาระเพิ่มขึ้น
พ่อแม่ของหญิงสาวจึงได้ตัดสินใจนำ เ ด็ ก ไปไว้กับพระ และปล่อยให้พระเลี้ยงดูแทน
พระท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร รับมาเลี้ยงด้วยความเต็มใจ ตอนเช้าก็อุ้ม เ ด็ ก คนนี้ออกบิณฑบาตด้วย
แต่เมื่อคนในหมู่บ้านเห็น ต่างก็พากัน นิ น ท า และ ตำ ห นิ พระรูปนี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
ผ่านไป 1 ปี หญิงสาวเริ่มรู้สึกผิดที่ โ ก ห ก และทำให้พระรูปนั้นที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมาโดนต่อว่า
จึงได้ไปสารภาพกับพ่อแม่ว่า จริงๆแล้วพ่อแท้ๆไม่ใช่พระรูปนั้น แต่เป็นคนอื่น
ทำให้ครอบครัวนี้รู้สึกละอายใจมาก จึงเข้าไปหาพระ และกราบขอโทษยกใหญ่
สิ่งที่เห็นคือ พระท่านดูอดหลับอดนอน โ ท ร ม มาก แต่ลูกน้อยกลับอ้วนท้วน ขาวสะอาดน่ารักน่า ชั ง
หญิงสาวยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ที่ต้องให้พระมารับผิดชอบเลี้ยงดูลูกของตัวเอง และได้กราบขอโทษ
แต่พระกลับพูดแค่ว่า “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” ถึงแม้ว่าตัวเองจะโดนว่าสารพัด ถูกกล่าวหามาเป็นปี
แต่ท่านกลับไม่แก้ตัวอะไรเลย และไม่ได้โกรธอะไรครอบครัวนี้เลย
พระท่านบอกเพียงว่า “อาตมาบวชเป็นพระ ชื่อเสียงเงินทองเป็นของนอกกาย ถึงคนจะเข้าใจผิด หรือต่อว่านิ น ท า อาตมาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก เพียงแค่ได้ช่วยแม่กับลูกให้พ้นจาก วิ ก ฤ ต และ ทุ ก ข์ ที่ผ่านมาได้ก็ดีแล้ว เหมือนเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง”
เรื่องราวนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องไปอธิบายอะไร ให้กับคนที่เข้าใจเราผิด เขาจะคิดหรือพูดอย่างไรก็ปล่อยเขาไป เราอย่าไป เ ดื อ ด ร้ อ น กับคำพูดของเขาก็พอแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่จะต้องไปคอยอธิบายให้กับทุกคนฟัง เพราะสุดท้ายเขาก็จะพิจารณาและตัดสินเอง ว่าความจริงเป็นอย่างไร
คนที่ได้ยินแต่คนอื่นพูดมา แล้วเชื่อทันที โดยไม่ไตร่ตรองหรือหาข้อเท็จจริง มันบ่งบอกอยู่แล้วว่า เขาไม่ได้อยากจะฟังความจริงแต่แรก เห็นใครพูดอะไรมาก็เชื่อไว้หมด เพราะเขาอยากฟังแค่ในสิ่งที่เขา อยากจะได้ยินเท่านั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สหาย
อย่าเสียเวลา ที่จะต้องไปอธิบาย ให้กับคนที่เข้าใจคุณผิด
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
มกราคม 18, 2563
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: