อยู่อย่างคนยากจน จะไม่มีวันจน ถ้าไม่รวย แต่อยู่อย่างคนรวย จะไม่มีวันรวย




อยู่อย่างคนยากจน จะไม่มีวันจน ถ้าไม่รวย แต่อยู่อย่างคนรวย จะไม่มีวันรวย 

วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดดี ๆ สำหรับใครบางคนในหลายครั้งที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ว่าหากใช้ชีวิตแบบคuจน คุณก็จะไม่มีวันจน

ซึ่งนี่คือคำพูดที่มีพ่อแม่หลายคนมักจะใช้สั่งสอนลูกอยู่เสมอ เพราะว่าคนสมัยก่อนนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างประหยัด และผ่านความยากลำบากมาจึงรู้ว่า ถ้าหากใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยมากเกินไปก็จะไม่เหลือเก็บฉะนั้นใช้บัตรคuจนก็จะเหลือเก็บเยอะหน่อย

แต่ทว่าในปัจจุบันนั้นก็เข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาล่อใจอย่างมากมาย อีกทั้งยังเป็นในช่วงยุคของทุนนิยม จึงมีการแนะแนวเรื่องของการบริโภคเป็นที่ตั้ง 

ซึ่งนั่นก็ทำให้คนบางกลุ่มมีความเชื่อว่าความสุขนั้น ก็อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้เงิน ซึ่งบางคนก็มักจะใช้ชีวิตแบบเที่ยวจัดเต็มกินแบบเต็มที่ โดยไม่เหลือเก็บเลยสักบาทก็มี..

แต่ในบางครั้งก็อยากจะให้หยุดคิดเอาไว้หรือแบบตัวเองไว้ ลองมาทบทวนพฤติกรรมของตัวเองว่าตัวเรานั้นใช้อะไรไปมากน้อยเกินไปหรือเปล่า ลองปรับชีวิตให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น พยายามเดินทางสายกลางอย่าให้อะไรมันมากหรือน้อยจนเกินไป ตามแนวทางลักษณะศาสนาพุทธนั้นก็ถือว่าดีอยู่

ซึ่งถ้าหากคนบางคนนั้นสามารถใช้ชีวิตได้แบบคuจน จึงทำให้มีการเก็บออมมากยิ่งขึ้นซึ่งการใช้ชีวิตแบบคuจนนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องให้พาตัวเองไปตกระกำลำบากแต่อย่างใด หรือกินอาหารราคาถูกหรือใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ 

แต่ลองใช้สมองในการคิดว่า จะเลิกใช้กินเลือกใช้ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่กินทิ้งขว้าง แม่หาสิ่งของมากมายจนเกินความจำเป็น

อย่างเช่น ถ้าหากเรามีการเข้าวางอยู่ตรงหน้า ถ้าหากเป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีอะไรเขาก็จะต้องทาน แต่กลับกันเด็กที่มีพร้อมถ้าหากไม่ชอบในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาก็อาจจะไม่ทันเลยก็มี..

แน่นอนว่าการเบรคตัวเองนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในบางครั้งสังคมการทำงานนั้นก็มาจะเอาฐานะมาอวดร่ำอวดรวยกัน เน้นใช้ของราคาแพงแบรนด์เนม 

ซึ่งในความจริงแล้วมาเราไม่จำเป็นต้องขนขวาย หาสิ่งเหล่านั้นจนแทบไม่มีเก็บหรือไม่มีกินเลยจะดีกว่าไหม

ลองใช้แบบพอดีพอดีอะไรที่ยังไม่พังก็ใช้ไปก่อน ซึ่งนั่นก็คือนอกจากเราจะไม่สิ้นเดือนแล้วมันก็เป็นสิ่งที่การันตีว่าเราจะไม่มีวันจนอีกต่างหาก

เรียกง่าย ๆ ว่าการใช้ชีวิตแบบพอเพียงก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และถ้าหากเราใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็จะเกิดการกลายเป็นการบ่มเพาะนิสัยให้อยู่คู่กับตัวเราไปเสมอ 

ถ้าเรารู้สึกว่าอะไรที่พอดีแล้วก็ให้รู้สึกต่อไป อย่าไปขนขวายมากจนเกินพอดีใช้ยาเกินความจําเป็น สร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนในครอบครัวดีกว่าใช้เงินไปกับการซื้อของเงินทองของนอกกาย

ซึ่งถ้าหากจะอยากทำแบบนี้ก็เริ่มจากง่าย ๆ คือลองนั่งรถสาธารณะ เดินกินลมชมวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ ใช้รถส่วนตัวให้น้อยลงนอกจากจะลดมลพิด แล้วยังช่วยในเรื่องของค่าน้ำมันได้อีกด้วย หรืออยู่ในอาศัยในพื้นที่บ้านไม่เกินกำลังในการดูแลเน้นความสะดวกสบายและสะอาด

ไม่ต้องเอาไปอวดโอ้ใครแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะให้เกับบุคคลสถานที่นั้น ๆ เลือกคนที่จะคบค้าสมาคมอยากเลือกคบคนที่เอาเป็นว่าสิ่งของเลือกคนที่มีความคิดในการใช้ชีวิตจะดีกว่า …

ฉะนั้นคนหนุ่มสาวทั้งหลายในยุคใหม่ที่อยู่ในยุคที่มองไปทางไหนก็เจอแต่วัตถุนิยม บริโภคนิยม ก็อยากจะให้ดึงสติของตัวเองเอาไว้ ให้รู้จักรู้เท่าทันโลกที่กำลังหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ควรรู้ว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่

แล้วควรรู้กำลังของตัวเองว่าควรอยู่ในสถานะฐานะแบบไหน หรือว่ากำลังกายใจของเรานะมีมากน้อยเพียงไร ซึ่งถ้าหากไตร่ตรองดีๆสิ่งเหล่านี้ก็จะพาไปสู่คำว่าไม่จน


ที่มา: fastviweuk
อยู่อย่างคนยากจน จะไม่มีวันจน ถ้าไม่รวย แต่อยู่อย่างคนรวย จะไม่มีวันรวย อยู่อย่างคนยากจน จะไม่มีวันจน ถ้าไม่รวย แต่อยู่อย่างคนรวย จะไม่มีวันรวย Reviewed by Dusita Srikhamwong on ธันวาคม 18, 2563 Rating: 5


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.