“โหระพา” ผักสมุนไพรมีกลิ่นหอม ช่วยชะลอวัย ขับลมในลำไส้ เจริญอาหาร

“โหระพา” ผักสมุนไพรมีกลิ่นหอม ช่วยชะลอวัย ขับลมในลำไส้ เจริญอาหาร 

“โหระพา” (Sweet Basil) เป็นผักที่เราต้องเจอกันอยู่ทุกวัน เพราะมันจะไปปรากฏตัวบนอาหารนานาชนิด ทั้งเป็นส่วนผสมในอาหารหรือใช้เป็นผักตกแต่งหน้าตาของอาหารให้ดูสวยงาม

โดยโหระพานั้นมีสีสันที่เขียวสดใสและมีกลิ่นเฉพาะตัวซึ่งจะช่วยดับกลิ่นคาวของวัตถุดิบบางอย่างได้ ชวนให้มีกลิ่นหอมน่ากินยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วพืชผักสวนครัวอย่างโหระพามีสรรพคุณทางยา ประโยชน์ทางสมุนไพรอีกมากเชียว

สรรพคุณทางยา คุณค่าทางโภชนาการของ “โหระพา”

หลายคนกินโหระพาก็บ่อย บางคนอาจได้กินแทบทุกวัน แต่กลับไม่เคยทราบเลยว่าใบโหระพาที่เรากินเข้าไปนั้นมีคุณค่าของสารอาหารทางโภชนาการอยู่ด้วย ไม่ว่าจะให้พลังงานแก่ร่างกาย มีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย อาทิ เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส และใยอาหาร

นอกจากนี้โหระพามีคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด โดยเฉพาะสาร Methyl Chavicol ที่มีอยู่มากถึง 90% ซึ่งสามารถจะสกัดเอามาใช้ในการรักษาโรค รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ของโหระพาอย่างรากและลำต้นก็มีประโยชน์ในด้านการช่วยดูแลสุขภาพเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี น้ำมันหอมระเหยจากโหระพาไม่เหมาะกับการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย

ปลูก “โหระพา” ไม่ยากอย่างที่คิด

โหระพาเป็นผักสวนครัวที่ถือว่าปลูกไม่ยาก เพราะมีวิธีการปลูกได้ถึง 3 วิธี คือ การหว่านเมล็ด การย้ายพันธุ์กล้า และการปักชำกิ่ง โดยวิธีบ้านๆ ที่เรานิยมทำกันหลังจากเด็ดใบโหระพาจนหมดแล้ว ก็นำก้านที่จะทิ้งนี่แหละไปปักลงในดิน แต่แนะนำว่าควรเป็นดินดีๆ นะ มันก็จะขึ้นแตกใบแตกยอดออกมาให้เราได้เก็บกินก็จะช่วยบำบัดโรคให้เราได้แล้วล่ะ

15 สรรพคุณของโหระพา ประโยชน์ในการรักษาโรค

1. โหระพามีสรรพคุณช่วยแก้หวัด แก้ไข้ รักษาอาการวิงเวียนศีรษะ ขับเหงื่อ และขับเสมหะ ให้ใช้ใบสดหรือต้นของโหระพามาต้มน้ำแล้วดื่มเป็นชา หรือการกินเป็นผักสดก็จะช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน

2. โหระพามีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด

3. โหระพามีสรรพคุณใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ ได้และช่วยขับปัสสาวะ คนที่มีปัญหาท้องผูกบ่อยๆ ให้นำเมล็ดแช่น้ำจนพองแล้วกินเป็นประจำ อาจผสมกินกับน้ำหวาน ขนมหวาน และใส่น้ำแข็งก็ได้ เมล็ดโหระพายังมีคุณสมบัติช่วยให้อิ่มนานและควบคุมน้ำหนักได้

4. สรรพคุณของโหระพาช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ ลดการบีบตัวของลำไส้ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้การย่อยอาหารดีและช่วยให้เจริญอาหาร สามารถจะกินข้าวได้มากขึ้น

5. โหระพาช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เสริมสร้างการทำงานของระบบต่างๆ ให้ทำงานเป็นปกติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศด้วย

6. ประโยชน์ของโหระพารักษาอาการกลากเกลื้อนได้เป็นอย่างดี ให้เตรียมใบสดประมาณ 15-20 ใบมาตำพอมีน้ำออกมา ใช้ทาบริเวณผิวหนังที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง ทำไปเรื่อยๆ จนหาย

7. โหระพาเหมาะกับผู้หญิงที่มีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติจะช่วยรักษาได้เป็นอย่างดี

8. โหระพาใช้รักษาแผลให้หายเร็ว ลดการอักเสบของแผล โดยการนำใบสด 5-10 ใบมาขยี้พอแหลกใช้พอกบริเวณแผล วิธีนี้ยังช่วยในการห้ามเลือดของแผล รวมทั้งผิวหนังที่ปวดบวมเพราะโดนแมลงสัตว์กัดต่อยได้ด้วย

9. โหระพามีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10. โหระพามีสรรพคุณช่วยดูดซับสารพิษออกจากผิวหนัง

11. โหระพาแห้งมีประโยชน์ใช้เป็นสมุนไพรรักษาเหงือกอักเสบและเป็นหนอง ให้บดโหระพาแห้งเป็นผงแล้วทาบริเวณเหงือกที่อักเสบ หรือแก้อาการปวดฟัน ให้คั้นน้ำจากใบสด ใช้สำลีชุบน้ำอุดไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวด

12. โหระพาเป็นแหล่งของน้ำมันหอมระเหยคุณภาพดี กลิ่นหอมหวาน มีสรรพคุณทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทาความกังวล ทำให้จิตใจรู้สึกสงบ เกิดสมาธิ และลดอาการซึมเศร้าลงได้

13. น้ำมันโหระมีสรรพคุณกำจัดแมลงได้ หลายคนอาจไม่รู้ว่าโหระพาช่วยจัดการกับแมลงหรือหนอนที่เป็นศัตรูพืช รวมทั้งสามารถป้องกันยุงได้ และมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอางอีกด้วย

14. โหระพาเป็นยารักษาโรคตาแดงหรือมีขี้ตามากผิดปกติ

15. โหระพาแก้อาการสะอึกได้ ด้วยการดื่มน้ำที่ได้จากการต้มใบสดหรือแห้งกับขิงสด โดยควรดื่มขณะยังอุ่นๆ อยู่จะช่วยได้เป็นอย่างดี

พอได้รู้สรรพคุณและประโยชน์ของโหระพาแล้ว รู้สึกดีจังเลยที่ตัวเองเป็นคนชอบกินโหระพา เพราะเป็นผักที่มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอม แล้วยังอุดมไปด้วยประโยชน์ทางสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาและป้องกันโรคได้มากมาย ใครที่กินบ้างไม่กินบ้างละก็ ต่อไปต้องจริงจังกับการกินโหระพาเพิ่มขึ้นนะ


ที่มา...https://sukkaphap-d.com/