วิธีทำน้ำกระชาย อมหลังแปรงฟันช่วยลดกลิ่นปาก แก้ปากเหม็น และปัญหาฟันผุ

วิธีทำน้ำกระชาย อมหลังแปรงฟันช่วยลดกลิ่นปาก แก้ปากเหม็น และปัญหาฟันผุ

คนไทยร้อยละ 70 มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ทั้งฟันผุและโรคปริทันต์ หากไม่รักษา ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯมีสมุนไพรไทยหลายชนิด และเป็นทราบกันดีว่าสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพช่องปาก ป้องกันฟันผุได้ผลดี นั่นคือ กระชาย สมุนไพรคู่ครัวไทยมาช้านานนั่นเอง

ผลการศึกษาวิจัยพบว่าใน กระชาย () มีสารชื่อ แพนดูราทิน เอ (Panduratin A) มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดคราบจุลินทรีย์ จากเชื้อ 4 ชนิดที่ทำให้เกิดฟันผุ เช่น สเตรปโตคอคัสมิวแตน (Streptococcus mutans)  สเตรปโตคอคคัส แซงกินิส (Streptococcus sanguinis) ให้ผลเทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบัน ลดการเกิดโรคปริทันต์  ลดเชื้อราในช่องปาก โดยสามารถกำจัดเชื้อสเตรปโตคอคคัสมิวแตน ภายใน 2 นาที

และหากนำมาใช้เป็นยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ช่วยลดกลิ่นปากได้ร้อยละ 70-90 พิสูจน์ผลด้วยเครื่องมือตรวจวัดลมหายใจ(Oral Chroma)

ซึ่งเป็นเครื่องมือมีในประเทศไทยเพียง 2 แห่ง คือ ที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจังหวัดปราจีนบุรี

สำหรับการทำน้ำกระชายแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นปากหรือปากเหม็นนั้นสามารถทำใช้ในครัวเรือนด้วยวิธีไม่ยุ่งยาก  ดังต่อไปนี้

ใช้กระชาย 1 กำมือ โขลกให้ละเอียด 

จากนั้นนำไปต้มกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 15 นาที

ต่อมากรองเอาแต่น้ำ และผสมเกลือ 1 หยิบมือ นำไปต้มต่อไปจนเกลือละลายหมดแล้วยกลง

และนำมาอมหลังแปรงฟันไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยบ้วนทิ้ง หรือ จะกลืนลงท้องก็ไม่มีอันตราย  

*** ต้มใหม่ทุกวัน อมหรือบ้วนปากด้วยน้ำกระชายต้มอย่างต่อเนื่อง ปัญหากลิ่นปากจะค่อยๆหมดไป
 
นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรพื้นบ้านอีก 4 ชนิดที่แนะนำคือ 

ผักคาดหัวแหวน กานพลู มีสารสำคัญออกฤทธิ์เป็นยาชาบรรเทาอาการปวดฟัน ใช้ในกรณีฉุกเฉินเบื้องต้น

โดยใช้ดอกของผักคาดหัวแหวนซึ่งมีลักษณะเป็นช่อสีเหลือง มาขยี้และอุดฟัน หรือนำดอกมาตำผสมเหล้าโรงเล็กน้อย และชุบสำลีอุดฟันจุดที่ปวด

นอกจากนี้ยังมี ข่อย และ ต้นแก้ว ซึ่งปัจจุบันใช้ผสมในยาสีฟันและน้ำยาดับกลิ่นปาก ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย

ขอบคุณรูปจาก https://lh3.googleusercontent.com/
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก smart sme