ฝึกทำ 13 ข้ อ ทุกวัน หากอย ากมีความสุขในชีวิต ที่ไม่หรูหรา และเรียบง่าย
เมื่อคุณเดิน มาถึงจุดๆ หนึ่งของชีวิตคุณก็อย ากที่จะมีชีวิตที่มีความสุข ไม่หรูหรา และเรียบง่าย วันนี้เรามีวีธีสร้างความสุขนั้น มาให้คุณ แค่คุณ
ฝึกทำ 13 ข้ อนี้ทุกวัน หากอย ากมีความสุขในชีวิต ที่ไม่หรูหรา และเรียบง่าย ไปดูกันว่ามีวิธีการทำอย่ างไรพร้อมๆ กันค่ะ
1 ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ
หมายความว่า อย่ าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงมีแต่คนโง่เท่านั้น ที่มองว่าความสมบูรณ์แบบมีจริง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต ามหัดเว้นที่ว่างไว้ให้ความผิดพลาดบ้างทุกอย่ าง
ไม่จำเป็นต้องไร้ที่ติการผิดบ้างถูกบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เพียงแต่เราต้องรู้จักปรับปรุงตนเองไม่ให้ผิดพลาดบ่อยๆ ซ้ำๆ ซากๆ
2 ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่ าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดาอย่ าเป็นคนสำคัญเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่ าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากอย่ าปล่อยให้จิตใจวนไปวน มากับความรู้สึกของตัวเอง
เหมือนจมอยู่ในอ่างลองเปิดต ามองไปรอบๆ แล้วมองให้เห็นว่า คนบนโลกนี้มีมากมายแค่ไหนตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลก ดังนั้นก็อย่ าไปให้ความสำคัญกับมัน มากนัก ทุ ก ข์บ้าง ผิดบ้าง เรื่องธรรมดา
3 ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่ างนั้นเป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้ว ไม่เป็นภาระยกเว้นความดีนอ กนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อยในแง่ของความสุข
เราไม่จำเป็นต้องสะสมอะไรเพื่อให้มีความสุขวิธีมีความสุขของคนเรามีมากมายหล า ยอย่ าง และเราไม่ควรเลือ กวิธีที่สร้างภาระให้กับตนเอง
4 ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่ านไปเสมอ
หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุขมันก็ผ่ านไปเวลามีความทุ ก ข์ ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความทุ ก ข์ก็ผ่ านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้นก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันจากโลกนี้ไป ดังนั้นอย่ าไปเสียเวลาคิดมาก
อย่ าไปย้ำคิดย้ำทำอย่ าไปหลงยึดไว้เกินความจำเป็นให้รู้จักธรรมชาติของมัน การยึดติดกับวัตถุ บุคคล หรือความรู้สึกจนเกินเหตุคือปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆที่ทำให้คนเราเกิดความทุ ก ข์ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้และต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนปล่อยวางอะไรง่ายๆ เข้าไว้
5 ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ
หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่ าไปพูดมาก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดแต่ถ้ามันไม่ดี เป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูดเพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียห า ยนั้นมีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ
และขุ่นมัวคนที่พูดจาไม่ดีแม้ว่าคำพูดจะดูฉลาดหลักแหลมเพียงไรมันก็คือความโง่ชนิดหนึ่ง คนที่พูดแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่นนับเป็นคนหาความสุขได้ย ากนัก
6 ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน
หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อนเมื่อรู้จักพอแล้ว
ก็ไม่ต้องหาเงิน มากเมื่อไม่ต้องหาเงิน มากชีวิตก็มีโอ กาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงินการยุติความเป็นขี้ข้าของอำนาจเงินนี้ พูดง่ายแต่ทำย ากแต่ก็ต้องทำเพราะถ้าไม่ทำ ชีวิตทั้งชีวิตของเรา ก็จะเป็นชีวิตที่เกิดมาแล้วจากโลกไปเปล่าๆด้วยเหตุที่ว่าใช้เวลาหมดไปกับการสะสมเงินทองที่เอาไปไม่ได้แม้แต่บาทเดียว
7 ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอนดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า ‘เรามาถูกทางแล้ว’แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลกคนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูกคนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่
นับประสาอะไรกับคนอื่น ถ้าเราห้ า มตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ค่อยมาคิดว่าเราจะไม่ถูกนินทา ขอให้รู้ว่า คำนินทาคือของคู่กับมนุษย์โลกมีมาช้านานแล้วแม้แต่คนที่สร้างคุณงามความดีไว้กับโลกมากมาย
ยังถูกนินทาแล้วเราเป็นใครจะไม่ถูกนินทาดังนั้น อย่ าไปใส่ใจให้มากถ้าอะไรที่ดีเก็บไว้ปรับปรุงตัว อะไรที่ไม่ดีทิ้งมันไว้ไม่ต้องไปตีคร า ค าสร้างค่าให้คำพูดไร้สาระส่วนตัวเราเอง ก็สมควรอย่ างยิ่งที่จะต้องฝึกตนเองให้เป็นผู้ไม่นินทาคนอื่นเช่นกัน
8 ฝึกตัวเองให้เป็นแสงสว่างในที่มืด
หมายความว่า ตรงไหนที่มันมืด เราควรไปเป็นดวงไฟส่องทางให้เขาตรงไหนที่ไม่มีคนช่วย เราควรไปทำเช่นลองหาเวลาไปรับประทานอาหารร้านที่ไม่มีลูกค้าเข้า อย่ ามุ่งแต่เรื่องกินให้การกินของเรามันเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นบ้างร้านเขาไม่มีลูกค้าแล้วเราเข้าไปนั่ง
มันไม่ใช่แค่เงิน แต่มันหมายถึงกำลังใจอย่ าคิดถึงการบริการที่ดีที่สุดอย่ าคิดถึงรสชาติของอาหารให้มากนักให้คิดว่า เรากำลังเป็นผู้ให้ เดินเข้าร้านหนังสือ หนังสือเล่มไหนเก่าที่สุด เราอ่านเนื้อหาแล้วสนใจ หยิบมันขึ้น มาแล้วจ่ายเงินนำมันกลับบ้านเหลือหนังสือเล่มสวยๆ ไว้ให้คนอื่นๆ ได้ซื้ อได้อ่านอย่ าไปบ้ากับการเก็บสิ่งที่ดีที่สุดอย่ าไปบ้ากับการปรนเปรอสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองแต่ให้เน้นจิตใจที่ดีที่สุด ใช้วัตถุ
ใช้เงินเป็นเครื่องมือในการซื้ อจิตใจดีๆ สูงๆสะอาดๆ ของเรากลับคืน มาวัตถุเป็นเรื่องไม่จีรัง แต่จิตใจดีๆ นั้นเป็นทั้งหมดของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้จักรั ก ษ าดูแลเอาไว้ไม่ให้เกิดความเสียห า ย
9 ฝึกให้ตัวเองเสียสละ และยอมเสียเปรียบ
หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเสียเปรียบผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็นใครก็ต ามที่บ้าความถูกต้องบ้าเหตุบ้าผล ไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลยไม่ช้า คนๆ นั้นก็จะเป็นบ้าสติแตก กล า ยเป็นคนที่ถูกทุกอย่ างแต่ไม่มีความสุข
เพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่นซึ่งส่วนใหญ่ มันก็เป็นเพียงความถูกต้องที่กิเลสของตัวเองลากไปไม่ได้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตรงธรรมอย่ างแท้จริงดังนั้น การยอมเสียเปรียบการให้ผู้อื่นด้วยความเบิกบานจึงเป็นสิ่งจำเป็น มากกว่าที่เราคิดกันมีแรงให้เอาแรงช่วยมีเงินให้เอาเงินช่วย
มีความรู้ก็เอาความรู้เข้าไปช่วย ในหนึ่งวันเราควรถามตัวเองว่าวันนี้เราได้ช่วยใครไปแล้วหรือยัง เราได้เสียเปรียบใครหรือยังถ้าคำตอบคือ ‘ยัง’ ให้รู้เอาไว้เลยว่าเราเป็นอีกคนที่มีแนวโน้มจะหาความสุขได้ย ากเต็มที
10 ฝึกให้ตัวเองยอมรับความจริงง่ายๆ
หมายความว่า อะไรที่ทำผิด อย่ าดันทุรัง ให้พูดคำว่า ขอโทษครับ ขอโทษค่ะขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะฝึกพูดคำเหล่านี้ให้เป็นเรื่องปกติความผิดไม่ใช่เรื่องเสียห า ยแต่การผิดแล้วไม่ยอมรับผิด นั้นเป็นเรื่องเสียห า ย
และส่ งผลเสียกับชีวิตเป็นวงกว้างเพราะการปรับปรุงตัวนั้นมีจุดเริ่มต้นจากการที่คนๆ หนึ่งรู้ตัวว่าทำไม่ดีดังนั้นคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำไม่ดีแล้วดันทุรังก็คือคนที่ไม่มีโอ กาสปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น ขอให้รู้ว่าเมื่อเราทำผิด
ต่อให้ปากแข็งแค่ไหนดันทุรังแค่ไหน ผิดมันก็คือผิด หลอ กตัวเองได้แต่หลอ กคนอื่นไม่ได้ เหมือนเราบอ กว่าไม่เหม็นแต่กลิ่นเหม็นนั้น ถ้ามันมีจริงมันก็โชยออ กมาอยู่วันยังค่ำ
11 ฝึกให้ตัวเองไม่ไหลไปต ามอำนาจวัตถุนิยม
หมายความว่า ต้องรู้จักยับยั้งช่างใจ และมีปัญญาในการมองเห็นว่าอะไรคือสิ่งจำเป็น อะไรคือสิ่งที่เราถูกโฆษณาหลอ กเรากำลังเป็นตัวของตัวเอง หรือเรากำลังบ้ากระแสสังคมอย่ างไม่ลืมหูลืมต า
ลดความจำเป็นเรื่องแฟชั่น ลดความจำเป็นเรื่องโทรศัพท์ลดความจำเป็นเรื่องสิ่งของเครื่องใช้ก่อนจะซื้ อ ก่อนจะอย ากได้ให้ลองถามตัวเองว่า เราอย ากได้เพราะอะไร เพราะมันจำเป็นเพราะอย ากเท่อย ากดูดีในสายต าของอื่น
หรือเพราะอะไรกันแน่ๆ ตอบตัวเองให้ได้ชัดๆในเรื่องของความจำเป็นนี้พูดได้เลยว่า ของในชีวิตส่วนใหญ่ที่เราครอบครองกันอยู่มีไว้โชว์ มากกว่ามีไว้ใช้
12 ฝึกให้ตนเองเป็นคนไม่ทะเลาะกับคนใกล้ชิด
หมายความว่า เราต้องไม่เป็นคนหน้าชื่นอ กตรมคือยิ้มไปทั่วกับคนนอ กบ้านแต่กลับมาทะเลาะกับคนที่บ้าน ขอให้ใช้คนที่บ้านเป็นเครื่องมือฝึกจิตใจของตนเองอะไรที่ยอมได้ก็ขอให้ยอมเสียเปรียบคนในครอบครัวให้มากที่สุด
ดีกับเขาให้เหมือนเขาเป็นคนเดียวกับเราอย่ าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องนอ กบ้าน แต่กลับมาเก่งในบ้าน เพราะมันจะสร้างแต่ความทุ ก ข์ให้ชีวิตครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเราถ้าหาความสุขจากครอบครัวไม่ได้ ความสุขที่อื่นก็ไม่ต้องพูดถึง
ต่อให้หลอ กคนทั้งโลกได้ว่าชีวิตประสบความสำเร็จแต่ภาพที่สร้างขึ้น มาก็เป็นแค่ภาพลวงต า ที่จะย้อนกลับมาสร้างความละอายใจให้ตัวเองอยู่วันยังค่ำยอมพ่อแม่ยอมลูกเมีย ยอมสามี ยอมคุณต าคุณย ายคุณปู่คุณย่ า
สิ่งดีๆที่ทำแล้วชื่นใจก็ขอให้ทำให้บ่อย คำพูดดีๆที่พูดได้ก็ขอให้พูดครอบครัวคือรากของมนุษย์ ถ้ารากของชีวิต เ น่ า ส่วนที่เหลือก็ เ น่ าทั้งหมดขอให้ทุกคนสนุกกับการหาความสุขให้ตนเองในแบบง่ายๆ
13 ฝึกให้ตัวเองรู้จักเลือ กคนต้นแบบที่ถูกต้องตรงธรรม
หมายความว่า เมื่อคิดจะเลือ กใครสักคน มาเป็นแบบอย่ างในการดำเนินชีวิตอย่ าไปมุ่งเน้น แต่ความสำเร็จด้านเงินทองเพียงอย่ างเดียวแต่เราควรให้ความสำคัญกับคุณค่าในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ความดี คุณธรรมความเสียสละเราควรเคารพและชื่นชมใครซักคนที่ความดีของเขา
ไม่ใช่รายได้ของเขาทุกวันนี้คำว่าความสำเร็จถูกใช้ไปกับเรื่องของเงินๆ ทองๆ มากเกินไป ใครหาเงินได้มากแปลว่า คนๆนั้นประสบความสำเร็จมาก ตรงนี้เป็นการให้คุณค่าที่ผิดพลาดการคิดเช่นนี้ ย่อมเป็นการปลูกฝั่งค่านิยมในระดับ จิ ต วิ ญ ญ า ณที่ทำให้เราให้ตกเป็นทาสของเงิน
เมื่อเราเป็นทาสของเงินเสียแล้วเราก็จะเป็นคนที่ฝากความสุขของเราไว้กับเงินด้วยเราเลือ กต้นแบบ อย่ างไรชีวิตของเราก็จะมุ่งหน้าไปทางนั้นสังคมจะดีขึ้นได้ก็เริ่มจากทัศนคติของเราตรงนี้นั่นเอง
ยิ้มทุกวัน มองฟ้าให้เป็นฟ้ามีปัญญาสามารถเปลี่ยนโลกแห่งนี้ให้เป็นสวนดอ กไม้แห่งชีวิตได้สำเร็จกันทุกคน…
ขอขอบคุณ forlifeth
ฝึกทำ 13 ข้ อ ทุกวัน หากอย ากมีความสุขในชีวิต ที่ไม่หรูหรา และเรียบง่าย
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
มิถุนายน 22, 2563
Rating:

ไม่มีความคิดเห็น: