ใบยออ่อนๆมีวิตามินสูง ลวกกินกับน้ำพริก รองกระทงห่อหมก กินบ่อยๆช่วยแก้ตาบอดกลางคืนได้
ต้นยอ (Morinda citrifolia) เป็นพืชพื้นเมืองในแถบโพลีนีเซียตอนใต้ (Polynesia) และแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ ยอบ้านและยอป่า เป็นยาสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากชนิด
ยอ มีชื่อวิทยาศาสตร์ Morinda citrifolia L. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE) ที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือ ยอบ้าน ยอเป็นไม้ยืนต้น มีใบสีเขียว มีดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ ลักษณะของผลยาวรี ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีขาวนวล มีเนื้อนุ่ม ในผลมีเมล็ดจำนวนมาก มีสีน้ำตาล สำหรับรสชาติจะออกรสเผ็ดและมีกลิ่นแรง
สำหรับประโยชน์ของใบอ่อนของต้นยอนั้น นิยมนำมาลวกกินกับน้ำพริก ใช้ทำแกงจืด แกงอ่อม ผัดไฟแดง หรือนำมาใช้รองกระทงห่อหมก (เวลากินห่อหมกควรกินใบยอด้วย เพราะมีวิตามินสูง) นอกจากนี้ยังสามารถนำใบยอมาใช้ทำเป็นอาหารสัตว์ หรือนำมาเลี้ยงตัวหนอนไหมอีกด้วย
การใช้ประโยชน์อื่นๆ
ใบสดมีการนำมาใช้สระผมและกำจัดเหา หรือจะใช้น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอก็ได้ (ใบสด, น้ำมันสกัดจากเมล็ดยอ)
น้ำคั้นจากใบยอใช้ทาแก้อาการปวดตามข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า และโรคเกาต์ (ใบยอ)
ใบใช้ทำเป็นยาพอกใช้แก้กระดูกแตก กล้ามเนื้อแพลง (ใบยอ)
ช่วยรักษาแผลพุพอง (ใบยอสด)
ช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ (ใบสด)
แก้อาการไส้เลื่อน (น้ำสกัดจากใบยอ)
ช่วยแก้อาการปวดท้อง (น้ำสกัดจากใบยอ)
ใบยอใช้ปรุงเป็นอาหารแก้อาการท้องร่วง (ใบยอ)
มีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวาน (น้ำสกัดจากใบยอ)
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (น้ำสกัดจากลำต้นยอ, น้ำสกัดจากใบยอ)
ใบยอมีวิตามินเอสูงจึงช่วยบำรุงและรักษาสายตา แก้อาการตาบอดตอนกลางคืนได้ (ใบยอ)
สูตรทำห่อหมกใบยอปลาช่อน โดย knorr.com
ห่อหมกใบยอปลาช่อน เป็นอีกหนึ่งอาหารไทยยอดนิยม ด้วยความเข้มข้นจากเครื่องแกง ผสมผสานกับเนื้อปลาแน่นๆและรสขมอ่อนจากใบยอ ทำให้เมนูนี้อร่อยเข้ากันอย่างลงตัว
สิ่งที่ต้องเตรียม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำพริกแกงเผ็ด ¼ ถ้วย
เนื้อปลากรายขูด 200 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟองเล็ก
กะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์รสหมู 1 ช้อนชา
เนื้อปลาช่อนแล่ 150 กรัม
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
กระทงใบตองเย็บ 4 มุม หรือถ้วย
ผักรองก้นมี ใบยออ่อนๆ ฉีกแกนกลางออกลวกพอสุกบีบน้ำออก
หัวกะทิเคี่ยวข้นสำหรับหยอดหน้า
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเส้น ใบผักชี และใบมะกรูดซอย สำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมน้ำพริกแกงเผ็ด (ปริมาณ 1 ถ้วย)
พริกแห้งเม็ดใหญ่ทั้งเมล็ดแช่น้ำจนนุ่ม 11 เม็ด
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 2 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/2 ถ้วย
กระชายขูดเปลือกหั่น 1/4 ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 2 ช้อนชา
หมายเหตุ: ถ้าใช้น้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูป ให้โขลกกระชายขูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ และพริกแห้ง 10 เม็ด เพิ่มเติมเพื่อกลิ่นรสที่หอมอร่อยยิ่งขึ้น
วิธีทำ
1 เริ่มจากทำน้ำพริกแกงเผ็ดโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียดแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้
2 แบ่งใส่หัวกะทิปริมาณครึ่งหนึ่ง และน้ำพริกแกงเผ็ดลงในครกดิน หรืออ่างดินเผาใบเล็ก แล้วใช้ไม้พาย หรือสากคนให้พริกแกงละลายเข้ากันดี
3 ใส่เนื้อปลากรายลงไป แล้วกวนส่วนผสมไปในทางเดียวกันเพื่อให้ส่วนผสมฟูเข้ากันง่ายขึ้น
4 ใส่หัวกะทิอีกครึ่งหนึ่ง และไข่ไก่ ตามด้วยเนื้อปลาช่อน กวนต่อจนส่วนผสมเริ่มเหนียวข้นประมาณ 1 ชั่วโมง
5 เมื่อส่วนผสมเหนียวข้นดีแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา และคนอร์อร่อยชัวร์รสหมู กวนต่อจนรสชาติซึมเข้าเนื้อปลาประมาณ 15 นาที
6 ใส่ใบมะกรูดซอย คนให้เข้ากันดี
7 รองก้นกระทงด้วยใบยอลวก ตักส่วนผสมห่อหมกใส่เหลือขอบกระทงไว้เล็กน้อยประมาณ 1 ซม. เพราะห่อหมกจะฟูขึ้นจนเต็มหลังจากนึ่งเสร็จแล้ว
8 นำไปนึ่งในลังนึ่งบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงนาน 10 นาที หรือจนสุกทั่วดี หยอดหน้าด้วยหัวกะทิเคี่ยว พร้อมตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง ผักชี และใบมะกรูดซอยเพื่อเพิ่มความหอมอร่อย รับรองว่าน่าทานสุดๆ
ใบยออ่อนๆมีวิตามินสูง ลวกกินกับน้ำพริก รองกระทงห่อหมก กินบ่อยๆช่วยแก้ตาบอดกลางคืนได้
Reviewed by Dusita Srikhamwong
on
สิงหาคม 14, 2562
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: